Book,Page,LineNumber,Text 21,0016,001,สุขัลลิกานุโยคและอัตตกิลมถานุโยค อนึ่ง เพราะพระองค์มีวาจาดี คือ 21,0016,002,กล่าวแต่คำที่จริงที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ และกล่าวในกาล 21,0016,003,ที่ควรกล่าว และกล่าวแก่บุคคลที่ควรกล่าว คุณความดีของพระผู้มี 21,0016,004,พระภาคเจ้านั้น มีอยู่ดังพรรณนามาฉะนี้ เพราะเหตุดังนั้น พระองค์ 21,0016,005,จึงทรงพระนามว่า 'สุคโต' เป็นผู้ไปดีแล้ว ดังนี้. 21,0016,006,พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงพระนามว่า ' โลกวิทู ' เพราะรู้แจ้งซึ่ง 21,0016,007,โลกด้วยประการทั้งสิ้น. โลกนั้น ว่าโดยประเภทมี ๓ คือสังขารโลก 21,0016,008,ได้แก่นามและรูปเป็นต้น ๑ สัตวโลก ได้แก่เทพยดามนุษย์เป็นต้น ๑ 21,0016,009,โอกาสโลก ได้แก่แผ่นดินและอากาศเป็นต้น ๑. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น 21,0016,010,ย่อมรู้ซึ่งโลกทั้ง ๓ นี้ว่าเป็นปลุชชนธรรม มีความทรุดโทรมหลุดทลาย 21,0016,011,หักพัง ไม่ยั่งยืนเป็นธรรมดา พระองค์เมื่อรู้แจ้งโลกได้ฉะนี้ จึงข้าม 21,0016,012,โลกเสียได้ ไม่ติดอยู่ในโลกด้วยยางคือตัณหา เพราะเหตุนั้น พระองค์ 21,0016,013,จึงทรงพระนามว่า 'โลกวิทู' ผู้รู้แจ้งโลก. 21,0016,014,พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงพระนามว่า 'อนุตฺตโร' เพราะไม่มี 21,0016,015,ใครในโลกจะเสมอและยิ่งกว่าพระองค์ ด้วยคุณคือศีล สมาธิ ปัญญา 21,0016,016,วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ เหตุดังนี้ พระองค์จึงทรงพระนามว่า 21,0016,017,' อนุตฺตโร ' มีผู้อื่นยิ่งเลิศกว่าพระองค์ไม่มี. 21,0016,018,พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงพระนามว่า ' ปุริสทมฺมสารถิ' ผู้ 21,0016,019,ทรมานบุรุษที่ควรทรมาน. แท้จริง พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ย่อมทรง 21,0016,020,ทรมานสัตวโลกที่ควรทรมาน ด้วยอุบายอันวิจิตรต่าง ๆ คือ สัตว์เหล่า 21,0016,021,ใดชอบคำละเอียดไพเราะ พระองค์ก็ทรงทรมานด้วยคำละเอียด คือ