Book,Page,LineNumber,Text 21,0023,001,ชี้ทางข้อปฏิบัติ ซึ่งเป็นเหตุจะให้สัตว์ถึงซึ่งความสุขพ้นจากทุกข์ภัย 21,0023,002,เหตุนั้นจึงชื่อว่า สฺวากฺขาโต. อนึ่ง ธรรมนั้นท่านให้ผู้ที่ปฏิบัติดีได้ 21,0023,003,เห็นผล รู้แจ้งด้วยตนเองไม่ต้องการไต่ถามใคร เหตุนั้นจึงชื่อว่า สนฺทิฏฺ- 21,0023,004,€ิโก ผู้ปฏิบัติเห็นเอง. อนึ่ง เพราะธรรมนั้นท่านให้ผลไม่มีกาลไม่มี 21,0023,005,สมัย ปฏิบัติท่านดีจริง ๆ เมื่อใด ท่านก็ให้ผลได้ความเย็นใจ หาย 21,0023,006,ความร้อนเมื่อนั้น ไม่มีกาลไม่มีเวลา พฤกษาชาติมีไม้มะม่วงเป็นต้น 21,0023,007,ย่อมให้ผลตามฤดูกาล พระธรรมหาเป็นเช่นนั้นไม่ ใครปฏิบัติท่านดี 21,0023,008,จริงเมื่อใด ท่านก็ให้ผลเมื่อนั้น จะได้ให้ผลตามกาลเวลาเหมือนอย่าง 21,0023,009,พฤกษาชาติอันให้ผลตามฤดูกาลนั้นไม่มีเลย เหตุนั้นจึงชื่อว่า อกาลิโก 21,0023,010,ให้ผลไม่มีกาล. อนึ่ง พระธรรมนั้นท่านอาจจะร้องเรียกท้าทายผู้ปฏิบัติ 21,0023,011,ว่าท่านจงมาดูเถิด ๆ ดังนี้ เพราะพระธรรมนั้น เมื่อผู้ใดได้ดูท่านเห็น 21,0023,012,ท่านเข้าแล้วด้วยตาปัญญา กิเลสเครื่องเศร้าหมองซึ่งเป็นเหตุให้เกิด 21,0023,013,ความร้อนเหล่าใด ที่มีอยู่ในสันดานของผู้นั้น กิเลสเหล่านี้ ย่อม 21,0023,014,สงบระงับดับหายไปจากสันดาน ในขณะเมื่อได้ดูได้เห็นพระธรรมนั้น. 21,0023,015,แท้จริง ท่านที่มละกิเลสบาปธรรมได้ตามมรรคภาวนา มีคุณนาม 21,0023,016,ปรากฏเรียกว่า โสดาบัน สกทาคามี อนาคามีอริยบุคคล พระอรหันต- 21,0023,017,ขีณาสพ ดังนี้ ก็เพราะท่านมาได้ดูได้เห็นธรรมนั้น ความที่มละ 21,0023,018,กิเลสได้โดยตทังคะ วิกขัมภนะ สมุจเฉทปหาน ของผู้ที่มาได้ดูได้เห็น 21,0023,019,พระธรรมนั้น ย่อมจริงมีแท้ไม่เปล่าเลย เพราะเหตุนั้น พระธรรมนั้น 21,0023,020,จึงชื่อว่า เอหิปสฺสิโก ควรจะเรียกร้องซึ่งผู้ปฏิบัติว่า ท่านจงมาดูมาเห็น 21,0023,021,เถิด ดังนี้. อนึ่ง พระธรรมนั้นอันบุคคลผู้ปฏิบัติจะพึงน้อมเข้าในใจ