Book,Page,LineNumber,Text 21,0047,001,ทั้งสิ้นจงอย่ามีพยาบาทแก่กันและกันเลย หรือว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งสิ้น 21,0047,002,จงอย่ามีความเจ็บไข้ลำบากใจเลย หรือว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งสิ้นจงอย่ามี 21,0047,003,อุปัทวะทุกข์ภัยเกิดขึ้นในกายในใจเลย หรือว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งสิ้นจง 21,0047,004,เป็นสุข ๆ รักษาตนพ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นทุกอิริยาบถ เทอญ. 21,0047,005,เมตตาภาวนานี้ เป็นข้าศึกแก่โทสะและพยาบาทโดยตรง เมื่อ 21,0047,006,โยคาพจรเจริญเมตตานี้ จะมละโทสะและพยาบาทเสียได้ด้วยดี จิต 21,0047,007,ก็จะตั้งมั่นเป็นขสิกสมาธิ และอุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ โดย 21,0047,008,ลำดับ อนึ่ง ผู้ที่เจริญเมตตาภาวนานี้ จะหลับอยู่ก็เป็นสุข จะตื่น 21,0047,009,อยู่ก็เป็นสุข จะฝันเห็นก็เป็นมงคลไม่ลามก ย่อมเป็นที่รักใคร่ยินดี 21,0047,010,ของมนุษย์และอมนุษย์ทั้งสิ้น ไฟก็ไม่ไหม้ไม่เผาทำให้ร้อนได้ พิษทั้ง 21,0047,011,หลายคือพิษของสัตว์ที่มีพิษต่าง ๆ และพิษว่านพิษยา และศัสตราวุธ 21,0047,012,ต่าง ๆ ก็ไม่อาจประทุษร้ายทำอันตรายแก่กายและชีวิตได้ สีหน้าย่อม 21,0047,013,ผ่องใสงาม จิตย่อมตั้งมั่นได้เร็วพลัน เมื่อจะตายย่อมได้สติ ไม่หลง 21,0047,014,ตาย ตายแล้วแม้จะเกิดอีกก็ย่อมเกิดในที่ดีเป็นที่เสวยสุข ถ้าไม่เสื่อม 21,0047,015,จากฌานก็ไปเกิดในพรหมโลก เมตตาภาวนามีอานิสงสคุณต่าง ๆ แก่ 21,0047,016,ผู้ที่ได้เจริญฉะนี้. เหตุดังนี้ ควรที่กุลบุตรจะมีอุตสาหะเจริญเมตตา 21,0047,017,กัมมัฏฐานนี้ เมตตาพรหมวิหาร ยุติแต่เท่านี้. 21,0047,018,จะอธิบายในกรุณาพรหมวิหารต่อไปว่า เมื่อโยคาพจรกุลบุตร 21,0047,019,ได้เห็นมนุษย์หรือสัตว์ที่ได้รับความทุกข์ลำบากอยู่ พึงถือเอาซึ่งมนุษย์ 21,0047,020,และสัตว์นั้นเป็นอารมณ์แล้วจึงแผ่กรุณาจิตไปว่า สัตว์ผู้นี้ถึงซึ่งความ 21,0047,021,ทุกข์ลำบากยิ่งนักหนอ แม้ไฉนจะพึงพ้นจากทุกข์เหล่านี้ได้ ถ้าจะแผ่