Book,Page,LineNumber,Text 23,0035,001,ถ้าบุคคลมาบำเพ็ญจนตัดกิเลสคือ ราคะ โทสะ โมหะ ขาดเป็น 23,0035,002,สมุทเฉทปหาน กิเลสเหล่านั้นไม่กลับเกิดขึ้นได้อีก ดุจตาลยอดด้วนแล้ว 23,0035,003,ฉะนั้น นี่แหละชื่อว่าชำนะสิ่งที่ชำนะคราวเดียวแล้วไม่กลับแพ้ได้ ซึ่ง 23,0035,004,จัดว่าเป็นชำนะดีที่สุด. 23,0035,005,บุคคลเห็นอริยสัจจ์ทั้ง ๔ ด้วยปัญญาชอบ (แจกอริยสัจจ์ ๔) 23,0035,006,บรรลุพระอรหัตตผลนั่นแล ตัดกิเลสได้ขาด. 23,0035,007,๖๔. อกฺโกเธน ชิเน โกธํ. [ ๑๓๗ ] 23,0035,008,พึงชำนะคนโกรธด้วยความไม่โกรธ. 23,0035,009,ผู้หนึ่งโกรธผู้หนึ่งก่อน ชื่อว่าแพ้ตัวเอง และผู้ที่ตัวโกรธเขา 23,0035,010,ผู้ถูกโกรธแต่หาโกรธตอบไม่ ชื่อว่าชำนะตัวเอง และผู้มาโกรธก่อน 23,0035,011,เช่นผู้หนึ่งโกรธ ผู้หนึ่งไม่โกรธตอบ ทำการอยู่ด้วยกัน ผู้โกรธเป็น 23,0035,012,ทำดีไม่ได้ ฝ่ายผู้ไม่โกรธตอบเป็นทำได้ดีกว่า. หรือประชุมหารือ 23,0035,013,กิจการ ผู้โกรธเป็นออกความเห็นไม่ได้ดี ผู้ไม่โกรธตอบเป็นออก 23,0035,014,ความเห็นได้ดีกว่า. เพราะความโกรธทอนกำลังกายกำลังความคิดเสีย 23,0035,015,ความไม่โกรธเพิ่มกำลังกายกำลังความคิด หรือออกกำลังกาย กำลังความ 23,0035,016,"คิดเป็นไปปกติ, สมเด็จพระศาสดาจึงตรัสสอนว่า พึงชำนะคน" 23,0035,017,โกรธด้วยความไม่โกรธ คือควรที่มีผู้ปัญญาจะผจญดังนั้น. อนึ่ง ผู้มา 23,0035,018,โกรธก่อนมิใช่จะดีอะไร น่าติแท้ แต่ผู้โกรธตอบนั้นน่าติมากกว่าผู้มา 23,0035,019,โกรธก่อน เพราะผู้ถูกโกรธไม่โกรธตอบแล้ว เวรก็ระงับ ผู้มา