Book,Page,LineNumber,Text 24,0003,001,ปฏิปักข์แก่บุตรในครรภ์แล้ว โดยจะมีความใคร่ในรสอาหาร หรือได้ 24,0003,002,ทุกข์ทรมานด้วยโรคภัย ก็พยายามอดออม ไม่ยอมบริโภคสิ่งเหล่านั้น 24,0003,003,เป็นอันขาด. 24,0003,004,๒. กิริยาอันเคลื่อนไหวที่เคยได้รับความสุขแต่ก่อน ก็กลับต้อง 24,0003,005,สำรวมระวังมิให้กระทบกระเทือน ด้วยเกรงจะเป็นอันตรายแก่บุตร 24,0003,006,ยิ่งครรภ์แก่ ความลำบากอลักเอลื่อในเรื่องบริหาร ก็ยิ่งทวีขึ้นเป็นลำดับ 24,0003,007,(เรียกกันว่าอุ้มท้อง) ต้องทรมานอดทนไปจนกว่าจักถึงเวลาคลอด 24,0003,008,(กำหนดในราว ๙ หรือ ๑๐ เดือน) ตอนคลอดนั้นเป็นตอนเข้าด้วย 24,0003,009,เข้าเข็มที่มารดาจะต้องได้รับทุกขเวทนา ด้วยความเจ็บปวดอันร้ายแรง 24,0003,010,เหลือที่จะทนทาน บางคนต้องถึงเสี่ยงโชคไม่น้อยครั้ง จิตใจของมารดา 24,0003,011,เวลานั้นกล่าวกันว่า เท่ากับเข้าประจันบานด้วยข้าศึกซึ่งมีกำลังอานุภาพ 24,0003,012,อันใหญ่หลวง หากเพลี่ยงพล้ำลงก็ถึงแก่ชีวิตพินาศทีเดียว แม้เป็นโชค 24,0003,013,ดีรอดพ้นอันตรายจากตอนนี้ไปได้แล้วก็ดี แต่จะวางใจเสียทีเดียวว่า 24,0003,014,จักไม่มีอันตรายอย่างอื่นเข้าแทรกแซงอีกหาได้ไม่ คงยังต้องระวังรักษา 24,0003,015,ตัวอยู่ในวงการคาบคุมของหมอไป จนกว่าอาการจักเป็นปกติจึงจะนับว่า 24,0003,016,พ้นอันตรายได้ ต่อจากนี้ไป มารดาบิดาจักต้องเข้ารับหน้าที่บริหาร 24,0003,017,บำรุงเลี้ยงดูไป จนกว่าบุตรจะเติบโตสามารถรักษาตัวเองได้ ขนาด 24,0003,018,ที่จักวางธุระได้จริง คงต้องถึงระยะมีเหย้าเรือนแยกครอบครัวออกไป 24,0003,019,เป็นหลักเป็นแหล่งแล้ว เพราะตอนนี้มีหน้าที่บังคับให้ต้องเรียนรู้ถึง 24,0003,020,การปกครองตนเองและผู้อื่นอยู่ในตัว ซึ่งจักได้กล่าวในบทต่อ ๆ ไป. 24,0003,021,การบริหารเลี้ยงดูเป็นเรื่องจุกจิกมาก นับตั้งแต่ให้อาหาร ให้