Book,Page,LineNumber,Text 27,0010,001,อาบัติเพ่งโดยเจตนา 27,0010,002,๑. สจิตตกะ เกิดขึ้นโดยสมุฏฐานมีเจตนา. 27,0010,003,๒. อจิตตกะ เกิดขึ้นโดยสมุฏฐานแม้ไม่มีเจตนา. 27,0010,004,ทางกำหนดรู้อาบัติว่าเป็นสจิตตกะหรืออจิตตกะนั้น คือรูปความ 27,0010,005,และโวหารในสิกขาบทนั้นเองบ่งชัด. 27,0010,006,โทษแห่งอาบัติ ๒ 27,0010,007,๑. โลกวัชชะ เป็นโทษทางโลก. 27,0010,008,๒. ปัณณัตติวัชชะ เป็นโทษทางพระบัญญัติ. 27,0010,009,อาการต้องอาบัติ ๖ 27,0010,010,๑. อลชฺชิตา ต้องด้วยไม่ละอาย. 27,0010,011,๒. อาณตา ต้องด้วยไม่รู้. 27,0010,012,๓. กุกฺกุจฺจปกตตฺตา ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำ. 27,0010,013,๔. อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา ต้องด้วยสำคัญว่าควร ในของ 27,0010,014,ไม่ควร. 27,0010,015,๕. กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตา ต้องด้วยสำคัญว่าไม่ควร ใน 27,0010,016,ของควร. 27,0010,017,๖. สติสมฺโมสา ต้องด้วยลืมสติ. 27,0010,018,หลักที่จะพึงปฏิบัติในการต้องอาบัติมี ๓ 27,0010,019,๑. เป็นหน้าที่ของภิกษุผู้ต้องอาบัติ จะต้องทำคืนตามวิธีนั้น ๆ. 27,0010,020,๒. เป็นหน้าที่ของภิกษุอื่นผู้รู้เห็นจะพึงตักเตือนด้วยเมตตา. 27,0010,021,๓. เป็นหน้าที่ของสงฆ์จะพึงทำตามสมควรแก่พระธรรมวินัย.