Book,Page,LineNumber,Text 27,0032,001,ลักษณะการโจท ๔ 27,0032,002,๑. เล่าถึงเรื่องที่ทำ. 27,0032,003,๒. ระบุอาบัติ. 27,0032,004,๓. ด้วยการห้ามสังวาส. 27,0032,005,๔. ด้วยห้ามสามีจิกรรม. 27,0032,006,หมายเหตุ แต่ข้อเหล่านี้ชัดพอจะเข้าใจว่าต้องอาบัติปาราชิก. 27,0032,007,อาการต้องอาบัติ 27,0032,008,๑. อธิกรณ์ไม่มีมูล ภิกษุโจทเองก็ดี สั่งให้โจทก็ดี ด้วย 27,0032,009,อาบัติปาราชิก ต้องสังฆาทิเสส. 27,0032,010,๒. ภิกษุผู้ว่าต่างโจทก์ตามประสงค์ของผู้สั่ง ก็ต้องสังฆาทิเสส 27,0032,011,เหมือนกัน. 27,0032,012,๓. อธิกรณ์มีมูลอันเพลา โจททำให้มั่นเข้า เป็นสังฆาทิเสส. 27,0032,013,๔. อธิกรณ์มีมูล เช่นได้เห็นจริง แต่คลับคล้ายคลับคลาสันนิษ- 27,0032,014,ฐานลงไม่ถนัด โจททำให้มั่นเข้าว่าได้เห็นโดยถนัด เป็นสังฆาทิเสส. 27,0032,015,๕. จำเลยเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ คือต้องปาราชิกแล้ว แต่โจทก์ 27,0032,016,สำคัญว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และโจทด้วยอธิกรณ์ไม่มีมูล ต้องสังฆาทิเสส 27,0032,017,เหมือนกัน. 27,0032,018,อาการที่ไม่เป็นอาบัติ 27,0032,019,จำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ แต่เขาใจว่า เป็นผู้ไม่ 27,0032,020,บริสุทธิ์ โจทตรงตามอาการที่ได้เห็น ได้ฟังหรือรังเกียจ แม้อธิกรณ์ 27,0032,021,นั้นไม่เป็นจริง เช่นโจทตามที่ได้รับแจ้งความเท็จ ไม่ต้องอาบัติ.