Book,Page,LineNumber,Text
27,0049,001,ต้องนิสสัคคิปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่มีสมัยที่จะขอจีวรได้ คือเวลา
27,0049,002,ภิกษุมีจีวรอันโจรลักไป หรือมีจีวรอันฉิบหายเสีย.
27,0049,003,ข้อความที่ควรกำหนด ดังนี้ :-
27,0049,004,คำว่ามิใช่ญาติ
27,0049,005,คำนี้ หมายถึงคนที่ไม่เนื่องถึงกัน ทางมารดาก็ดี บิดาก็ดี
27,0049,006,ตลอด ๗ ชั่วบุรพชนก คือนับชั้นตนเป็น ๑ ข้างบน ๓ ข้างล่าง ๓
27,0049,007,รวมเป็น ๗ เขยและสะใภ้ทานไม่นับว่าเป็นญาติ.
27,0049,008,ลักษณะแห่งอาบัติ
27,0049,009,๑. เป็นทุกกฎในประโยคที่ขอ.
27,0049,010,๒. เป็นนิสสัคคิยะ ด้วยได้ผ้ามา.
27,0049,011,คำเสียสละพึงดูในแบบเถิด.
27,0049,012,อาบัตินี้ เป็นอจิตตกะ เพราะเหตุนั้น ถ้าเขาไม่ใช่ญาติ รู้อยู่
27,0049,013,ก็ตาม แคลงอยู่ก็ตาม สำคัญว่าเป็นญาติก็ตาม ขอในมิใช่สมัยก็ตาม
27,0049,014,เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ทั้งนั้น เรียกว่าติกปาจิตตีย์.
27,0049,015,เขาเป็นญาติ สำคัญว่าไม่ใช่ หรือแคลงอยู่ ขอเป็นทุกกฏ.
27,0049,016,สิกขาบทที่ ๗
27,0049,017,ในสมัยเช่นนั้น จะขอเขาได้ก็แต่เพียงผ้านุ่งผ้าห่มเท่านั้น
27,0049,018,ถ้าขอให้เกินกว่านั้น ได้มา ต้องนิสัคคิยปาจิตตีย์.
27,0049,019,ข้อความที่ควรกำหนด ดังนี้ :-
27,0049,020,วิธีขอผ้า
27,0049,021,ผ้าหาย ๓ ผืน พึงยินดี ๒ ผืน ผ้าหาย ๒ ผืน พึงยินดีผืนเดียว