Book,Page,LineNumber,Text 28,0025,001,(๑) อุปติสสะ เพราะเป็นบุตรนางสารี จึงเรียกกันว่า 28,0025,002,สารีบุตร. 28,0025,003,(๒) โกลิตะ เพราะเป็นบุตรนางโมคคัลลี จึงเรียก 28,0025,004,กันว่า โมคคัลลานะ. 28,0025,005,พร้อมด้วยบริวาร ๒๕๐ บวชในสำนักสัญชัยปริพาชก ไม่ได้ธรรม 28,0025,006,พิเศษ ภายหลังสารีบุตรเลื่อมใสในพระอัสสชิ และได้ฟังธรรม 28,0025,007,จากพระอัสสชิ พอเป็นเลาความว่า 28,0025,008,ธรรมใดเถิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดง 28,0025,009,เหตุแห่งธรรมนั้น และความดับแห่งธรรมนั้น 28,0025,010,พระศาสดาทรงสั่งสอนอย่างนี้. 28,0025,011,ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม แล้วสารีบุตรแสดงธรรมนั้น แก่โมคคัลลานะ 28,0025,012,โมคคัลลานะ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม ปริพาชก ๒ สหาย ก็ได้พา 28,0025,013,บริวารมาอุปสมบทในพุทธศาสนา. 28,0025,014,๕. พระโมคคัลลานะ อุปสมบทแล้ว ๗ วัน ไปทำความเพียรที่บ้าน 28,0025,015,กัลลวาลมุตตคามแขวงมคธ นั่งโงกง่วงอยู่ พระศาสดาทรงสอน 28,0025,016,อุบายแก้ง่วง ๘ อย่าง คือ :- 28,0025,017,(๑) ควรนึกถึงเรื่องที่จำ ๆ มาให้มาก. 28,0025,018,(๒) ควรตรึกตรองถึงธรรมตามที่ได้ศึกษามา. 28,0025,019,(๓) ควรสาธยายธรรม. 28,0025,020,(๔) ควรยอนช่องหู. 28,0025,021,(๕) ควรลุกขึ้นยืน เอาน้ำลูบหน้าตาเหลียวดูทิศดวงดาว.