Book,Page,LineNumber,Text 30,0024,001,สอนพระสาวกให้รู้ดีปฏิบัติชอบตาม หรือเรียกว่า พระพุทธเจ้า 30,0024,002,ผู้เป็นสังฆปริณายกนำซึ่งหมู่ให้รู้ดีปฏิบัติชอบ พระสงฆ์ได้รู้ดีปฏิบัติ 30,0024,003,ชอบแล้ว ท่านจึงได้นำธรรมมาสั่งสอนประชุมชน ตกลงว่า พระ 30,0024,004,สงฆ์จะได้รู้ดีปฏิบัติชอบก็เพราะพระพุทธเจ้า เหตุนี้ จึงได้แยกเป็น 30,0024,005,รัตนะละอย่าง ๆ. 30,0024,006,๒๐/๗/๕๘ 30,0024,007,ถ. การที่พุทธบริษัติได้ปฏิบัติธรรมวินัย ได้รับประโยชน์สุข 30,0024,008,เช่นได้บวชเรียนรู้ดีรู้ชอบเป็นต้นในบัดนี้ เป็นเพราะได้อาศัยพระพุทธ- 30,0024,009,เจ้า หรือพระธรรม หรือพระสงฆ์ ? เป็นเพราะเหตุไร ? 30,0024,010,ต. อาศัยรัตนะ ๓. เพราะรัตนะทั้ง ๓ เป็นของต่อเนื่องกัน. 30,0024,011,๑๕/๗/๖๑ 30,0024,012,"ถ. พระพุทธเจ้า, พระธรรม, พระสงฆ์ ได้นามว่ารัตนะ ซึ่ง" 30,0024,013,แปลว่าแก้ว ด้วยอธิบายว่ากระไร ? 30,0024,014,ต. ด้วยอธิบายว่า เป็นผู้ทำความยินดีให้เกิดแก่ผู้นับถือ เพราะ 30,0024,015,ให้สำเร็จความประสงค์ และให้เกิดความสุขความอุ่นใจอยู่เสมอ 30,0024,016,รัตนะภายนอกครั้งก่อนเขาถือกันว่า เป็นแก้วสารพัดนึก เพราะ 30,0024,017,ให้สำเร็จความประสงค์ ให้เกิดความสุข. พระพุทธเจ้า พระธรรม 30,0024,018,พระสงฆ์เป็นแก้วสารพัดนึก เพราะพระพุทธเจ้าเป็นผู้รู้ของจริง 30,0024,019,แล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม ได้รับความสุข พระธรรมที่พระองค์ทรงสั่ง 30,0024,020,สอน เมื่อปฏิบัติตามแล้ว ย่อมได้รับผลคือความสุข พระสงฆ์ปฏิบัติ 30,0024,021,ตามพระธรรมวินัยได้รับผลนั้นแล้ว สั่งสอนให้ผู้อื่นรู้แล้วได้รับผลเช่น