Book,Page,LineNumber,Text 30,0025,001,นั้น ชื่อว่าทำความยินดีให้เกิดแต่ละอย่างๆ เหตุนั้น จึงชื่อว่ารัตนะ. 30,0025,002,๒๔๖๔ 30,0025,003,ถ. รัตนะ คืออะไร ? หากขาดเสียอย่างใดอย่างหนึ่งได้ไหม ? 30,0025,004,เพราะเหตุไร ? 30,0025,005,ต. รัตนะ คือ แก้ว กล่าวโดยศาสนโวหาร คือ พระพุทธ 30,0025,006,พระธรรม พระสงฆ์. หากจะขาดเสียแต่อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เลย. 30,0025,007,เพราะเหตุว่า รัตนะทั้ง ๓ นั้นเนื่องเป็นอันเดียวกัน เมื่อขาดเสียแต่ 30,0025,008,อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ก็ไม่อาจสำเร็จประโยชน์ พึงเห็นอุปมาดังนี้ 30,0025,009,พระพุทธเจ้า เปรียบด้วยพระอาทิตย์ที่อุทัยขึ้นในท้องฟ้า เพื่อกำจัด 30,0025,010,ความมืดของโลก พระธรรม เปรียบด้วยรัศมีที่ซ่านออกจาก 30,0025,011,พระอาทิตย์แล้วยังให้โลกสว่าง พระสงฆ์ เปรียบด้วยชาวโลกที่ได้รับ 30,0025,012,อุปการะจากแสงสว่างของพระอาทิตย์ ในสิ่งทั้ง ๓ นี้ ถ้าขาดเสีย 30,0025,013,อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น โลกที่ไม่มีพระอาทิตย์ ชาวโลกก็จะมืดมน 30,0025,014,อนธการไม่อาจที่จะประกอบการงานอะไรได้ ส่วนรัศมีเป็นเครื่องทำ 30,0025,015,ให้พระอาทิตย์มี แสง ถ้าพระอาทิตย์ขาดแสงคือ รัศมี ก็เป็นสิ่ง 30,0025,016,ที่ไม่มีประโยชน์แก่ชาวโลกดุจอัน หรือพระอาทิตย์แม้จะอุทัยขึ้น 30,0025,017,ก็ไม่อาจที่จะสำเร็จประโยชน์แก่ใคร พระอาทิตย์ รัศมีของพระ 30,0025,018,อาทิตย์ และชาวโลกจะขาดเสียมิได้ ฉันใด รัตนะทั้ง ๓ อย่างนั้น 30,0025,019,แม้จะขาดเสียแต่สักอย่างหนึ่ง ก็ไม่ได้ ฉันนั้น. 30,0025,020,๒๔๖๙ 30,0025,021,"ถ. พระพุทธ, พระธรรม, พระสงฆ์ เป็นรัตนะอย่างไร ? จง"