Book,Page,LineNumber,Text 33,0023,001,ภิกษุมีความประพฤติเลวทราม คือ ประพฤตินอกทางของสมณะ 33,0023,002,"เช่นทำสุงสิงกับหญิงสาวในสกุล, เล่นการพนัน เล่นซุกซน เล่นตลก" 33,0023,003,คะนอง ร้องรำทำเพลง ภิกษุเช่นนี้ถูกสงฆ์ลงปัพพาชนียกรรม คือ ขับ 33,0023,004,เสียจากวัด เพื่อให้รู้สึกตัว. 33,0023,005,แต่เธอกลับติเตียนสงฆ์ว่า ลุอำนาจอคติ ๔. 33,0023,006,ภิกษุอื่นห้ามปราม ถ้าไม่ละ สงฆ์ตักเตือน ถ้าไม่ละ สงฆ์สวดกรรม 33,0023,007,เธอก็จะต้องอาบัติต่าง ๆ เหมือนสิกขาบทที่ ๑๐. 33,0023,008,สิกขาบทที่ ๑ ถึง ๙ เรียก ปฐมาปัตติกะ คือต้องอาบัติสังฆาทิเสส 33,0023,009,ในขณะทำสำเร็จ. 33,0023,010,สิกขาบทที่ ๑๐ ถึง ๑๓ เรียก ยาวตติยกะ คือ ต้องอาบัติ 33,0023,011,สังฆาทิเสส ต่อเมื่อสงฆ์สวดประกาศห้ามครบ ๓ ครั้ง (มี ๔ เที่ยว 33,0023,012,เที่ยวแรกเป็นคำเตือนยังไม่นับ) 33,0023,013,วิธีออกจากอาบัติสังฆาทิเสส 33,0023,014,๑. ต้องอาบัติแล้วรีบบอกภิกษุรูปใดรูปหนึ่งทันที อย่าให้ล่วง 33,0023,015,ราตรี เว้นไว้แต่มีเหตุขัดข้องจริง ๆ. 33,0023,016,๒. ขอมานัตในสงฆ์ ๔ รูป แล้วประพฤติมานัต ๖ ราตรี. 33,0023,017,๓. ถ้าปิดอาบัติไว้กี่วันก็ต้องอยู่ปริวาสเท่านั้นวันก่อน ครบ 33,0023,018,แล้วจึงประพฤติมานัติ ๖ ราตรี. 33,0023,019,๔. ประพฤติมานัตครบแล้ว ขออัพภานในสงฆ์ ๒๐ รูปขึ้นไป 33,0023,020,ครั้นสงฆ์สวดอัพภานจบแล้ว จึงกลับเป็นภิกษุบริสุทธิ์ตามเดิม. 33,0023,021,"อาบัตินี้ เรียก ครุกาบัติ คือ อาบัติหนัก ฝ่ายแก้ได้, เรียก"