Book,Page,LineNumber,Text
34,0005,001,ไม่ย่อมแตะต้องก้อนเหล็กแม้เย็นแต่เปื้อนคูถฉันใด คนมีหิริก็ไม่ยอมแตะ
34,0005,002,ต้องบาปอันเปรียบด้วยคูถฉันนั้น.
34,0005,003,๒. โอตตัปปะ แปลว่าความเกรงกลัว ได้แก่ความหวาดกลัว
34,0005,004,ผลชั่ว ไม่กล้าทำเหตุชั่ว. ในอภิธัมมัตถวิภาวินีว่า โอตตัปปะนั้น มี
34,0005,005,ความสะดุ้งแต่บาปเป็นลักษณะ ในอิติวุตตกวัณณนาว่า โอตตัปปะ มี
34,0005,006,ความเป็นผู้กลัวโทษ และเห็นแจ้งซึ่งภัยเป็นลักษณะ อธิบายว่า บางคน
34,0005,007,เกิดความสะดุ้งอันมีความกลัวโทษเห็นภัยเป็นลักษณะโดยเหตุ ๔ อย่างคือ
34,0005,008,กลัวตนเองติเตียนตนเองได้ ๑ กลัวผู้อื่นติเตียน ๑ กลัวอาชญา ๑ กลัว
34,0005,009,ทุคติ ๑ แล้วไม่ทำความชั่ว. และโอตตัปปะ มีเหตุภายนอกเป็นสมุฏ-
34,0005,010,ฐาน. อธิบายว่า บางคนพิจารณาเห็นว่า ถ้าเราทำชั่ว. ก็จักถูกติเตียนใน
34,0005,011,สังคม วิญญูชนจักตำหนิรังเกียจเรา เหมือนชาวเมืองเกลียดของโสโครก
34,0005,012,เราถูกผู้มีศีลทอดทิ้งแล้ว จักทำอย่างไร ดังนี้แล้วไม่ทำความชั่ว เพราะ
34,0005,013,ความกลัวอันเกิดขึ้นจากเหตุภายนอก. อนึ่ง โอตตัปปะนี้มีการปรารภโลก
34,0005,014,เป็นใหญ่. อธิบายว่า บางคนทำโลกให้เป็นใหญ่ คือปรารภว่าโลกนี้
34,0005,015,กว้างใญ่ไพศาล พวกมีฤทธิ์ ตาทิพย์ หูทิพย์ และรู้จิตคนอื่นมีอยู่ เขา
34,0005,016,คงรู้เห็น หากเราทำชั่วแม้ในที่ไกลที่ลับอย่างไร เขาคงติเตียนได้ ดังนี้
34,0005,017,แล้วไม่ทำชั่ว. โอตตัปปะนี้ ทรงตัวอยู่ได้ด้วยความกลัวอบายคือความเสื่อม
34,0005,018,กล่าวคือ ถ้าไม่กลัวความเสื่อมความพินาศฉิบหายแล้ว ก็เป็นอันว่าไม่มี
34,0005,019,โอตตัปปะ ท่านกล่าวอุปมาไว้ว่า คนผู้รักชีวิต รู้อยู่ ย่อมเกรงกลัวไม่กล้า
34,0005,020,จับเหล็กที่ร้อน หรืออสรพิษ หรือสัตว์ร้ายฉันใด คนมีโอตตัปปะย่อม
34,0005,021,ไม่กล้าแตะต้องความชั่วอันเปรียบด้วยของร้าน หรืออสรพิษ หรือสัตว์ร้าย
34,0005,022,ฉันนั้น.