Book,Page,LineNumber,Text 34,0021,001,กองเวทนา กองสัญญา กองสังขาร กองวิญญาณ อันบริสุทธิ์จาก 34,0021,002,อุปกิเลสบาปธรรม. 34,0021,003,๒. พระธรรม ศัพท์บาลีว่า ธัมมะ แปลโดยพยัญชนะว่า 34,0021,004,สภาพผู้ทรงไว้ หมายความว่า ทรงบุคคลผู้ปฏิบัติดีไว้ มิให้ตกในอบาย 34,0021,005,ทั้ง ๔ และในวัฏฏทุกข์. 34,0021,006,อนึ่ง พระธรรม คือ ความดีจริง อันได้แก่ความไม่โลภ 34,0021,007,ไม่โกรธ ไม่หลง ที่บุคคลทำให้มีให้เป็นขึ้นด้วยอุบายที่แท้จริง ไม่ใช่ 34,0021,008,ความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ที่มีในเวลานอนหลับ. อีกอย่างหนึ่ง 34,0021,009,ได้แก่ความเป็นเองที่ไม่มีโลภ - โกรธ - หลง เพราะไม่มีสังขารเป็นที่ตั้ง. 34,0021,010,อีกอย่างหนึ่ง พระธรรม คือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมด 34,0021,011,หากจัดเป็นสอง เรียกว่าพระธรรม ๑ พระวินัย ๑ หรือจัดเป็น 34,0021,012,สาม เรียกว่าพระไตรปิฎก อันได้แก่พระวินัย ๓ พระสูตร ๑ พระ 34,0021,013,อภิธรรม ๑ หรือเรียกว่า พระสัทธรรม ๓ อันได้แก่ปริยัติลัทธรรม ๑ 34,0021,014,ปฏิบัติสัทธรรม ๑ ปฏิเวธสัทธรรม ๑. 34,0021,015,๓. พระสงฆ์ ศัพท์บาลีว่า สังฆะ แปลโดยพยัญชนะว่า หมู่ 34,0021,016,หมายถึงหมู่แห่งสาวก คือผู้ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วปฏิบัติชอบ 34,0021,017,ตามพระธรรมวินัย. พระสงฆ์มี ๒ ประเภท คือ ๑. สมมติสงฆ์ ๒. อริยสงฆ์. 34,0021,018,สมมติสงฆ์ แปลว่าสงฆ์โดยสมมติ หมายถึงภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป 34,0021,019,นั่งภายในสีมา (เขตชุมนุมสงฆ์ตามหลักพระวินัย) ไม่ละหัตถบาสกัน 34,0021,020,มีอำนาจให้สำสังฆกรรมนั้น ๆ มีอุโบสถกรรมเป็นต้น. 34,0021,021,อริยสงฆ์ แปลว่าหมู่แห่งพระอริยเจ้า หมายถึงภิกษุผู้เป็นอริย- 34,0021,022,บุคคล ๔ จำพวกคือ พระโสดาบัน ๑ พระสกทาคามี ๑ พระอนาคามี ๑