Book,Page,LineNumber,Text 34,0027,001,ึควรแก่ฐานะ ภาวะ สติ ปัญญา ของตน ๆ. 34,0027,002,ส่วนลึกที่ไม่ควรรู้ ไม่ควรเป็น เช่นปัญหาเรื่องโลกเที่ยง โลก 34,0027,003,ไม่เที่ยง โลกมีที่สุด ไม่มีที่สุด เป็นต้น เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ทางที่จะให้ 34,0027,004,พ้นทุกข์ ไม่มีประโยชน์อะไร แม้เหล่าเสื่อมโทรมทางศีลธรรม เช่น 34,0027,005,สถานเริงรมย์ ระบำลามก ภาพยนตร์ลามก แหล่งมั่วสุมยาเสพติดให้โทษ 34,0027,006,บ่อนพนัน เป็นต้น ก็เป็นสิ่งไม่ควรรู้ ไม่ควรเป็น คือบุคคลไม่ควร 34,0027,007,ประพฤติตนให้หมกมุ่นอยู่ในสิ่งเหล่านี้ เพราะมีแต่จะพาให้ฉิบหายวายวอด 34,0027,008,ไม่เป็นทางที่จะให้พ้นทุกข์ไปได้ พระไม่สอน. 34,0027,009,พระพุทธเจ้าเมื่อจะทรงแสดงธรรม ก็ทรงพิจารณาอุปนิสัยของผู้ฟัง 34,0027,010,เสียก่อน แล้วจึงทรงสั่งสอนเฉพาะเรื่องที่ควรรู้ควรเห็น ให้พอเหมาะแก่ 34,0027,011,อุปนิสัยของผู้ฟังนั้น ๆ จึงปรากฏว่าได้ผลดี เหมือนนายแพทย์ตรวจดู 34,0027,012,สมุฏฐานของโรคก่อนแล้วจึงวางยา โรคจึงหาย ได้ผลดีฉะนั้น. 34,0027,013,๒. ข้อที่ว่า ทรงสั่งสอนมีเหตุ นั่น มีอธิบายว่า ทรงแสดงธรรม 34,0027,014,พร้อมทั้งเหตุ หมายความว่า มีเหตุมีผล ไม่ทรงแสดงธรรมไร้เหตุ คือ 34,0027,015,ไม่มีเหตุไม่มีผล เช่นบางศาสนาสอนว่า ทำอย่างนี้ ๆ ตายแล้วไปสวรรค์ 34,0027,016,ทำอย่างนั้น ๆ ตายแล้วไปนรก ทั้ง ๆ ที่ผู้แสดงและผู้ฟังไม่รู้ว่า สวรรค์ 34,0027,017,นรก เป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน ทางอันแท้จริงเป็นอย่างไร. แต่พระ 34,0027,018,พุทธเจ้าทรงแสดงธรรมชี้เหตุชี้ผล ให้ผู้ฟังเห็นได้โดยประจักษ์ แจ่มแจ้ง 34,0027,019,เช่นทรงแสดงว่า นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับทุกข์ นี้ข้อปฏิบัติ 34,0027,020,ให้ถึงความดับทุกข์. ตัณหาเป็นเหตุ ทุกข์เป็นผล อริยมรรคมีองค์ ๘ 34,0027,021,เป็นเหตุ ความดับทุกข์เป็นผล. นี้ความยากจน นี้เหตุให้เกิดความยากจน 34,0027,022,นี้ความร่ำรวย นี้ข้อปฏิบัติให้เกิดความร่ำรวย. ความเกียจคร้าน ความไม่