Book,Page,LineNumber,Text 36,0046,001,๔. ในการถวายทานนั้น ถ้ามีพิธีอื่นประกอบด้วย ก็เป็นเรื่องของพิธี 36,0046,002,แต่ละอย่าง ๆ ไป เฉพาะพิธีถวายทานเมื่อถึงกำหนด ฝ่ายทายกพึงดำเนินพิธี 36,0046,003,ดังนี้ 36,0046,004,ก. จุดธูปเทียนหน้าที่บูชาพระ ถ้ามีตั้งอยู่ด้วย 36,0046,005,ข. อาราธนาศีล และรับศีล 36,0046,006,ค. ประนมมือกล่าวคำถวายทานนั้น ๆ ตามแบบ ในการกล่าวคำถวายนี้ 36,0046,007,ทุกครั้งต้อง นโม ก่อน ๓ จบ ถ้าถวายรวมกันมากคน ควรว่า นโม 36,0046,008,พร้อมกันก่อน แล้วหันหน้ากล่าวนำคำถวายให้ผู้อื่นว่าตามเป็นคำ ๆ 36,0046,009,ทั้งคำบาลี และคำแปลจนจบ แต่คำแปลในบางกรณีที่มีคำถวายบาลี 36,0046,010,ยืดยาวจะเว้นไม่กล่าวก็ได้ ต่อนั้นถ้าเป็นของควรประเคนก็ประเคน 36,0046,011,จะประเคนสิ่งของประเภทอาหารแต่เที่ยงแล้วไปหาได้ไม่ อนึ่ง เสนาสนะ 36,0046,012,หรือวัตถุที่ใหญ่โต ไม่สามารถจะยกประเคนได้ ถ้าประสงค์จะประเคน 36,0046,013,ใช้น้ำหลั่งลงบนหัตถ์ของสงฆ์ผู้เป็นประธานเป็นพิธี ก็ถือว่า ได้ประเคนแล้ว 36,0046,014,๕. พระสงฆ์ที่ได้รับอาราธนา เพื่อรับสังฆทานตามธรรามเนียมของทาน 36,0046,015,นั้น ๆ แล้ว บางพวก ในขณะที่ทายกล่าวคำถวายทานประนมมือเป็นอาการ 36,0046,016,แสดงถึงการรับทานโดยเคารพ เมื่อทายกกล่าวคำถวายจบแล้วเปล่งวาจา สาธุ 36,0046,017,พร้อมกัน บางพวก เมื่อทายกกล่าวคำถวายจบแล้วจึงประนมมือ เปล่งวาจา สาธุ 36,0046,018,ทั้งนี้ สุดแต่จะควรสถานใดกล่าวไว้ตามที่เคยเห็นเท่านั้น เมื่อเสร็จการประเคนแล้ว 36,0046,019,พึงอนุโมนทาด้วยบท 36,0046,020,ก. ยถา......................................................................................................... 36,0046,021,ข. สพฺพีติโย.................................................................................................. 36,0046,022,ค. บทอนุโมทนาโดยควรแก่ทาน 36,0046,023,ฆ. ภวตุ สพฺพมงฺคลํ..................................................................................... 36,0046,024,๖. ขณะพระสงฆ์อนุโมทนา ทายกพึงกรวดน้ำ เมื่อพระเริ่มบท ยถา.... 36,0046,025,พอถึงบท สพฺพีติโย... เป็นต้นไป พึงประนมมือรับพรไปจนจบ แล้วกราบ ๓ หน 36,0046,026,เป็นอันเสร็จพิธีถวายทาน