Book,Page,LineNumber,Text 39,0014,001,ก็ไม่เกิดขึ้น จิตใจของบุคคลที่ประกอบด้วยกิเลสนั้น จึงอุปมาเหมือนชิ้น 39,0014,002,ปลา ชิ้นเนื้อ เวลาถูกแมลงวันหยอดไข่ ก็พร้อมที่จะแพร่เชื้อเป็นหนอนหรือ 39,0014,003,เปื่อยเน่าไป แต่ว่าไข่ของแมลงวัน ไม่ใช่ว่าจะหยอดในอะไรแล้วต้องเป็น 39,0014,004,หนอนทุกคราวไป ถ้าหากว่าไปหยอดไข่อยู่ในหินในไม้เป็นต้น ไม้นั้น 39,0014,005,ไม่มีเชื้อเน่าอยู่ จะหยอดอย่างไร ไข่เหล่านั้นก็ตายหมด วัตถุกามจึงเปรียบ 39,0014,006,เหมือนไข่ของแมลงวัน กิเลสนั้นเปรียบเหมือนเชื้อเน่าที่มีอยู่ในปลา ในเนื้อ 39,0014,007,ถ้าหากว่ามีการหยอดไข่ในปลาในเนื้อ ก็พร้อมที่จะเป็นหนอน แต่ถ้าไป 39,0014,008,หยอดในที่อื่น ก็มีแต่ตายไปอย่างเดียว ดังนั้น ท่านจึงกำหนดว่า วัตถุกาม 39,0014,009,คือรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นของมีอยู่เป็นอยู่โดยธรรมชาติธรรมดา 39,0014,010,สิ่งเหล่านี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นแก่จิตใจของบุคลหรือไม่ 39,0014,011,ก็อยู่ที่บุคคลเหล่านั้นมีกิเลสอยู่ภายในใจหรือไม่ ถ้ามีกิเลสก็สร้างความ 39,0014,012,เปลี่ยนแปลงเป็นความรัก ความชัง ขึ้นมาได้ ถ้าใจไม่มีกิเลส รูปก็เป็น 39,0014,013,เพียงสักแต่ว่ารูป เสียงเป็นต้น ก็เป็นเพียงสักแต่ว่าเสียงเท่านั้น พระอริย- 39,0014,014,บุคคลท่านก็เห็นรูป ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะ แต่เพราะ 39,0014,015,ภายในใจท่านไม่มีกิเลส รูปเสียงกลิ่นรสนั้น จึงไม่สามารถสร้างความรู้สึก 39,0014,016,ยินดียินร้าย หรือความรู้สึก ขึ้นลงให้เกิดขึ้นภายในจิตใจของท่านได้ แต่ 39,0014,017,สำหรับปุถุชนแล้ว ปุถุชนมีความยินดี มีความพอใจ มีความกำหนัดรักใคร่ 39,0014,018,ในอารมณ์ต่าง ๆ เมื่อได้เป็นรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ จึงมีความ 39,0014,019,กำหนัด พอใจ ยินดี หรือไม่กำหนัด ไม่พอใจ ไม่ยินดี ตามสมควรแก่กิเลส 39,0014,020,ที่มีอยู่ภายในใจอันเป็นเหตุให้กำหนดอารมณ์ว่าดีหรือไม่ดี ถ้ากำหนดว่าดี 39,0014,021,กิเลสสายโลภะความความโลภ ความอยากได้ก็บังเกิดขึ้น ถ้ากำหนดว่าไม่ดี 39,0014,022,กิเลสสายโทสะก็จะบังเกิดขึ้น ครอบงำใจของบุคคล การปฏิบัติในทาง 39,0014,023,พระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าจึงทรงมุ่งเน้นไปที่การบรรเทากิเลส คือ