Book,Page,LineNumber,Text 39,0017,001,๒. ถือว่า มีการเปลี่ยนแปลง เช่นคนจนอาจตายไปเกิดเป็นคนรวย 39,0017,002,ได้ เป็นต้น 39,0017,003,ความคิดสายนี้ โยงเข้าหาสรรพสิ่งในปัจจุบัน โดยเขาถือว่าสิ่งทั้ง 39,0017,004,หลายเป็นของคงที่ ไม่มีการแปรผันเป็นอย่างอื่น เช่นน้ำก็คงเป็นน้ำซึ่งมี 39,0017,005,ความเย็นอยู่ตลอดไป ถึงแม้จะนำไปต้มให้ร้อน ก็ดำรงอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง 39,0017,006,เท่านั้น ในที่สุดจะกลับเป็นความเย็นตามธรรมชาติเดิมของมัน แม้ว่าจะ 39,0017,007,กลายเป็นไอลอยไปบนท้องฟ้า แต่จะตกกลับมาเป็นฝนอีก สรรพสิ่งจึง 39,0017,008,เป็นของเที่ยงแท้ และคงอยู่ในสภาพเดิมตลอดไป ไม่มีอะไรมาทำให้ 39,0017,009,"เปลี่ยนแปลงได้ ดังวาทะที่ว่า "" วิญญาณนี้เท่านั้นแล่นไป ท่องเที่ยวไป" 39,0017,010,"หาใช่สิ่งอื่นไม่ "" ทฤษฎีนี้เป็นคำสอนของท่านปกุทธกัจจายนะ ซึ่งเป็นหนึ่ง" 39,0017,011,ในจำนวนครูทั้ง ๖ ในยุคพุทธกาล 39,0017,012,ทำไมสัสสตทิฏฐิจึงเป็นมิจฉาทิฏฐิ และ พระพุทธศาสนามีหลักการ 39,0017,013,อย่างไร ? 39,0017,014,พระพุทธศาสนาถือว่า ความเห็นเช่นนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะ 39,0017,015,๑. เป็นความเห็นที่ขัดแย้งกับกฎแห่งไตรลักษณ์ คือ อนิจฺจํ ความ 39,0017,016,ไม่เที่ยง ซึ่งปรากฏในสรรพสิ่ง เป็นการปิดโอกาสที่จะพัฒนา ยกระดับ 39,0017,017,ความประพฤติของตนให้สูงขึ้น เพื่อบรรลุมรรคผล นิพพานอันเป็นเป้า 39,0017,018,หมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา 39,0017,019,๒. พระพุทธศาสนาถือว่า สรรพสิ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวของ 39,0017,020,สิ่งเล็ก ๆ จำนวนมาก ที่เรียกว่า อณู ปรมาณู แม้สิ่งเล็ก ๆ เหล่านั้นก็มี