Book,Page,LineNumber,Text 40,0004,001,แล้ว ทีนี้เราพ้นทุกข์พ้นร้อนแล้ว เธอยังอยู่มักคอยเบียดเบียนว่ากล่าว 40,0004,002,สิ่งนี้ควรสิ่งนี้ไม่ควร ห้ามปรามนั่น ๆ นี่ ๆ จำเดิมแต่นี้เราจะมีความ 40,0004,003,สุขสบาย เราปรารถนาจะกระทำสิ่งใด เราก็กระทำสิ่งนั้นได้ พระ 40,0004,004,มหากัสสปะได้ยินแล้วก็เกิดความสังเวชสลดใจว่า พระผู้มีพระภาค 40,0004,005,เสด็จดับขันธปรินิพพานมิทันนาน สิ้นระยะกาลเพียง ๗ วันเท่านั้น ยัง 40,0004,006,"มีอลัชชีบาปชนกล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัยได้เช่นนี้, แต่ครั้นจะยกขึ้น" 40,0004,007,กล่าวในเวลานั้น ก็ยังเห็นว่ายังไม่ควร ครั้นแล้วจึงพาหมู่ภิกษุสงฆ์ 40,0004,008,ไปถวายบังคมพระพุทธสรีระและถวายพระเพลิง เมื่อถวายพระเพลิง 40,0004,009,พระพุทธสรีระแล้ว พระมหากัสสปะจึงปรารภในอันที่จะทำสังคายนา 40,0004,010,ด้วยอาศัยเหตุ ๒ ประการ (กล่าวเฉพาะที่เป็นข้อใหญ่) คือ :- 40,0004,011,๑. ระลึกถึงคำของสุภัททวุฑฒบรรพชิตกล่าวจ้วงจาบพระธรรม 40,0004,012,วินัย ถ้าทิ้งไว้นานไปพระสัทธรรมจักอันตรธาน เมื่อพระสัทธรรม 40,0004,013,ยังตั้งอยู่ ก็เหมือนพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่. 40,0004,014,๒. ระลึกถึงอุปการคุณของพระผู้มีพระภาคที่ยังมีอยู่แก่ตน เช่น 40,0004,015,ได้ทรงประทานผ้าสังฆาฏิทรงให้ และได้ยกย่องไว้ในฐานที่เป็นผู้มี 40,0004,016,ธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอด้วยพระองค์เป็นต้น. 40,0004,017,เมื่อปรารภเหตุเหล่านี้ขึ้นแล้ว จึงแจ้งความดำริและเล่าความตั้ง 40,0004,018,แต่ต้นให้ภิกษุทั้งปวงทราบ และชักชวนพระสงฆ์ให้มีความอุตสาหะ 40,0004,019,ปลงใจช่วยทำสังคายนา ภิกษุทั้งหลายก็อำนวยตาม จึงขอให้พระ 40,0004,020,เถรเจ้าเลือกพระสงฆ์ที่จะเข้าประชุมทำสังคายนา พระเถรเจ้าจึงเลือก 40,0004,021,พระสงฆ์ล้วนแต่พระอรหันต์ ผู้ได้ปฏิสัมภิทาและอภิญญา ๖ ซึ่ง