Book,Page,LineNumber,Text 40,0038,001,พระเจ้าธรรมาโศกทรงทราบว่า พระสงฆ์ไม่ทำอุโบสถสังฆกรรม 40,0038,002,และไม่ทันได้ไต่ถามเหตุ จึงใช้อำมาตย์ไประงับอธิกรณ์ อำมาตย์ 40,0038,003,นั้นไม่รู้จะไปทำอย่างไร เพื่อจึงแนะว่า ถ้าใครขัดขืนก็ควรฆ่า 40,0038,004,อำมาตย์ไปถึงหมู่พระสงฆ์แล้ว บังคับให้ทำอุโบสถสังฆกรรม พระสงฆ์ 40,0038,005,ผู้หนักอยู่ในพระธรรมวินัย ก็ไม่อาจทำอุโบสถสังฆกรรมร่วมกับพวก 40,0038,006,เดียรถีย์นั้นได้ อำมาตย์เห็นว่าขัดคำสั่งก็ฆ่าเสีย ๒-๓ องค์. 40,0038,007,พระติสสะ ผู้อนุชาของพระเจ้าธรรมาโศก ซึ่งได้ออกผนวช เมื่อ 40,0038,008,ครั้งก่อนแต่พระธรรมาโศกได้ราชาภิเษก ได้ผนวชอยู่ในสำนักพระธรรม- 40,0038,009,รักขิตเถระ ได้เห็นอาการของอำมาตย์กระทำดังนั้น จึงลุกมานั่งคั่นอยู่ 40,0038,010,ในที่ใกล้อำมาตย์นั้น อำมาตย์เห็นจำได้จึงหยุดแล้วจึงกลับมากราบทูลแด่ 40,0038,011,พระเจ้าธรรมาโศกราชว่า กระหม่อมฉัน ถือรับสั่งออกไประงับอธิกรณ์ 40,0038,012,บอกให้พระสงฆ์ทำอุโบสถสังฆกรรม กลับขัดขืนไม่ทำตาม จึงตัดศีรษะ 40,0038,013,เสีย ๒-๓ รูป พระเจ้าธรรมาโศกราชได้ทราบดังนั้น ทรงกลัวจะเป็น 40,0038,014,โทษ จึงรีบเสด็จไปยังอาราม เล่าความนั้นให้พระสงฆ์ฟังแล้วจึงตรัสถาม 40,0038,015,ว่าบาปจะตกอยู่กับใคร พระสงฆ์ถวายพระพรไม่ลงกัน บางพวกที่ปัญญา 40,0038,016,เขลาก็ว่า ตกอยู่แก่มหาบพิตร เพราะมหาบพิตรสั่งให้เขาไป บางพวก 40,0038,017,ที่มีปัญญาก็ว่า บาปตกอยู่แก่อำมาตย์ เพราะมหาบพิตรไม่ได้ใช้ให้เขา 40,0038,018,ไปฆ่า เมื่อได้ทรงฟังคำถวายพระพรของพระสงฆ์ไม่ลงกันเช่นนั้น ก็ยิ่ง 40,0038,019,สงสัยมากขึ้น จึงรับสั่งถามมหาพระสงฆ์ผู้ที่มีความแกล้วกล้า อาจชำระ 40,0038,020,ความสงสัยนี้ได้ พระสงฆ์ถวายพระพรว่า เห็นแต่พระโมคคัลลีบุตร 40,0038,021,ดิสสเถระเท่านั้น อาจตัดความสงสัยอันนี้ได้ จึงให้จัดพระมหาเถระ