Book,Page,LineNumber,Text 45,0004,001,พิธีเข้าพรรษา 45,0004,002,การเข้าพรรษา คือ การที่ภิกษุผูกใจว่าจะอยู่ประจำเสนาสนะวัดใดวันหนึ่ง 45,0004,003,ตลอดเวลา ๓ เดือนในฤดูฝนไม่ไปค้างแรมให้ล่วงราตรีในที่แห่งอื่นระหว่างที่ผูกใจ 45,0004,004,นั้นเป็นพิธีกรรมสำหรับภิกษุโดยตรง ซึ่งมีวินัยนิยมบรมพุทธานุญาติไว้ให้ปฏิบัติทุกรูป 45,0004,005,จะเว้นเสียมิได้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ มีเรื่องราวปรากฏอยู่ในวัสสูปนายิกขันธกะ พระวินัยปิฎก 45,0004,006,ใจความย่อ ๆ ว่า สมัยเมื่อผ่านปฐมโพธิกาลไปแล้ว มีกุลบุตรเข้ามาบวชเป็นภิกษุมาก 45,0004,007,ขึ้น พระพุทธเจ้ายังมิได้ทรงบัญญัติให้ภิกษุจำพรรษา ถึงฤดูฝนมีน้ำขังเต็มพื้นที่ไร่นา 45,0004,008,ทั่วไป ชาวบ้านอาศัยพื้นที่เหล่านั้นประกอบอาชีพทางกสิกรรม พวกพ่อค้าเป็นต้น 45,0004,009,ที่มิใช่ชาวกสิกรต่างพักผ่อนหยุดสัญจรกันในฤดูนี้เพราะนอกจากไม่สะดวกแล้วยัง 45,0004,010,เป็นอันตรายแก่พืชผลของชาวไร่นาแต่ภิกษุในสมัยนั้นบางจำพวกหาพักการจาริก 45,0004,011,ไม่ บ้างพากันย่ำเหยียบหญ้าระบัดและสัตว์เล็กเป็นอันตราย ชาวบ้านพากันติเตียน 45,0004,012,พระพุทธองค์ทราบจึงทรงบัญญัติให้ภิกษุจำพรรษาในฤดูฝนตลอด ๓ เดือน 45,0004,013,นับแต่วันแรมค่ำหนึ่ง เดือน ๘ ไปจนถึงวันเพ็ญเดือน ๑๑ เหลือเวลา ๑ เดือน 45,0004,014,ท้ายฤดูฝนคือแรมค่ำหนึ่ง เดือน ๑๑ ถึงเพ็ญเดือน ๑๒ ซึ่งเป็นเวลาน้ำลดและพืชผล 45,0004,015,เริ่มสุกแล้วไว้เป็นจีวรกาล คือ เวลาแสวงหาจีวรผลัดเปลี่ยนของภิกษุ ต่อมาทรงบัญญัติ 45,0004,016,ซ้ำเติมในเรื่องการจำพรรษาอีก ให้ภิกษุทุกรูปถือเสนาสนะ จะไปถ้ำ คูหา หรือกุฏิ 45,0004,017,อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ที่มีที่มุงที่บังแดดฝนครบถ้วน ห้ามจำพรรษาในที่กลางแจ้ง 45,0004,018,ในโพรงไม้ ในหลุมที่ขุด หรือในกุฎีดิน ซึ่งมีลักษณะเหมือนตุ่ม อาจะเป็นอันตราย 45,0004,019,พังลงมาทับเพราะน้ำฝนได้ โดยพระพุทธบัญญัติดังกล่าวนี้ จึงถือเป็นธรรมเนียม 45,0004,020,ในหมู่ภิกษุที่ต้องเข้าพรรษา และมีกำหนดพิธีปฏิบัติสืบ ๆ กันมา โดยหลักดังต่อไปนี้