Book,Page,LineNumber,Text 50,0009,001,เป็นเครื่องผูกให้ติดแห่งมาร มารจักล้างผลาญคุณความดีและทำให้ 50,0009,002,เสียคนไม่ได้ ก็เป็นอันกำจัดมารนั่นเอง เพราะฉะนั้น ท่านจึงสอนให้ 50,0009,003,ปฏิบัติตนให้พ้นจากบ่วงแห่งมาร. 50,0009,004,๑๔/๙/๖๖/๙/๖๙ 50,0009,005,ถ. กิเลสกามกับวัตถุกาม ถ้าไม่เรียกตามนี้ จะเรียกว่าอะไร 50,0009,006,ได้อีก ? ทำไมจะพ้นได้จากนั้น ยกอุทาหรณ์มาพร้อมทั้งบาลี ? 50,0009,007,ต. กิเลสกามเรียกว่ามาร วัตถุกามเรียกว่าบ่วงแห่งมาร. จัก 50,0009,008,หลุดพ้นได้ด้วยความสำรวมจิต ดั่งพระพุทธภาษิตว่า เย จิตฺตํ 50,0009,009,สญฺญเมสฺสนฺติ โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา ผู้ได้จักระวังจิต ผู้นั้นจักพ้น 50,0009,010,บ่วงแห่งมาร. 50,0009,011,๕/๙/๖๘ 50,0009,012,ถ. เจตสิกเช่นไร จัดเป็นกิเลสกาม เกี่ยวข้องกับจิตอย่างไร ? 50,0009,013,ถ้าจะป้องกันมิให้เจตสิกเช่นนั้นเกิดขึ้นกับจิต จะพึงปฏิบัติอย่างไร ? 50,0009,014,ต. เจตสิกอันเศร้าหมอง ชักให้ใคร่ ให้รัก ให้อยากได้ มี 50,0009,015,ตัณหา ราคะ อรติ เป็นอาทิ จัดเป็นกิเลส เกี่ยวกับจิตด้วย 50,0009,016,เพราะเป็นเครื่องทำจิตให้เศร้าหมอง สำรวมจิตไว้ไม่ปล่อยให้เพลิด 50,0009,017,เพลินพัวพันในวัตถุกาม ด้วยอาการคือสำรวมอินทรีย์มิให้ความยินดี 50,0009,018,ครอบงำในเมื่อเห็นรูปเป็นต้นอันน่าปรารถนา มนสิการกัมมัฏฐานที่ 50,0009,019,เป็นปฏิปักษ์ต่อกามฉันท์ คืออสุภะหรือกายคตาสติ หรือที่ยังจิต 50,0009,020,ให้สลด คือมรณัสสติ. เจริญวิปัสสนา คือพิจารณาสังขาร แยก 50,0009,021,ออกเป็นขันธ์ สันนิษฐานเห็นเป็นสภาพไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น