File size: 3,753 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
Book,Page,LineNumber,Text
05,0026,001,<B>ตามสัตถุศาสน์   ไม่เอื้อเฟื้อ  ไม่ทำคืนอาบัติ  มิได้ทำภิกษุผู้มีสังวาส
05,0026,002,เสมอกันให้เป็นสหาย  นางยังไม่ยอมสละวัตถุนั้น  สงฆ์สวดสมนุภาส
05,0026,003,ภิกษุณีผู้มีชื่อนี้   เพื่อให้สละวัตถุนั้น     การสวดสมนุภาสภิกษุณีผู้มี
05,0026,004,ชื่อนี้   เพื่อให้สละวัตถุนั้น    ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด   แม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็น
05,0026,005,ผู้นิ่ง  ไม่ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด   แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด. 
05,0026,006,ดิฉันกล่าวความนี้เป็นครั้งที่สอง. . .
05,0026,007,ดิฉันกล่าวความนี้เป็นครั้งที่สาม. . .
05,0026,008,ภิกษุณีมีชื่อนี้   อันสงฆ์สวดสมนุภาสแล้ว   เพื่อให้สละวัตถุ
05,0026,009,นั้น   ชอบแก่สงฆ์  เหตุนั้นจึงนิ่ง  ดิฉันทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.</B>
05,0026,010,[๒๒]   จบญัตติ     ต้องอาบัติทุกกฏ    จบกรรมวาจาสองครั้ง     ต้อง
05,0026,011,อาบัติถุลลัจจัย   จบกรรมวาจาครั้งสุด    ต้องอาบัติปาราชิก.
05,0026,012,[๒๓]  บทว่า  ภิกษุณีแม้นี้   พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเทียบเคียง
05,0026,013,ภิกษุณีรูปก่อน.                
05,0026,014,<H1>ทรงอุปมาด้วยศิลาแตก</H1>
05,0026,015,คำว่า   <B>เป็นปาราชิก</B>    มีอธิบายว่า    ศิลาหนาแตกสองเสี่ยงแล้วเป็น
05,0026,016,ของกลับต่อกันสนิทไม่ได้ฉันใด  ภิกษุณีก็ฉันนั้นแล   อันสงฆ์สวดสมนุภาสอยู่
05,0026,017,ถึงครั้งที่สาม    ยังไม่สละ     ย่อมไม่เป็นสมณะ     ไม่ใช่ธิดาของพระศากยบุตร
05,0026,018,เพราะเหตุนั้น   จึงตรัสว่า   เป็นปาราชิก.
05,0026,019,บทว่า   <B>หาสังวาสมิได้</B>   ความว่า  ที่ชื่อว่า  สังวาส  ได้แก่กรรมที่พึง
05,0026,020,ทำร่วมกัน    อุเทศที่พึงสวดร่วมกัน    ความเป็นผู้มีสิกขาเสมอกัน    นั่นชื่อว่า
05,0026,021,สังวาส   สังวาสนั้นไม่มีร่วมกับภิกษุนั้น     เพราะเหตุนั้นจึงตรัสว่า    หาสังวาส
05,0026,022,มิได้.