File size: 4,090 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
Book,Page,LineNumber,Text
17,0031,001,คนอื่น    สมัยแห่งธรรมีกถา  ในบรรดาสมัยแห่งกรณียะทั้ง  ๒  ของผู้   
17,0031,002,ประชุมกัน     สมัยแห่งเทศนา    ในบรรดาสมัยแห่งการเทศนา   และการ
17,0031,003,ปฏิบัติ  สมัยใดสมัยหนึ่ง  ในบรรดาสมัยเหล่านั้น   จึงกล่าวว่า  <B>เอกํ   สมยํ</B> 
17,0031,004,ดังนี้.
17,0031,005,ถามว่า  ก็เพราะเหตุไร ในที่นี้   ท่านไม่ทำเหมือนอย่างในอภิธรรม
17,0031,006,ท่านทำการแสดงไขด้วยสัตตมีวิภัตติว่า   <B>ยสฺมึ  สมเย  กามารจรํ</B>   และว่า
17,0031,007,<B>ยสฺมึ  สมเย   ภิกฺขเว    ภิกฺขุ  วิวิจฺเจว  กาเมหิ</B>  ในสุตตบทอื่นจาก
17,0031,008,คัมภีร์นี้       และในวินัยท่านทำการแสดงไขด้วยตติยาวิภัตติว่า      <B>เตน
17,0031,009,สมเยน  พุทฺโธ  ภควา</B> แต่ทำการแสดงไขด้วยทุติยาวิภัตติว่า    <B>เอกํ   สมยํ</B> 
17,0031,010,ตอบว่า  เพราะในที่นั้นมีความหมายเป็นอย่างนั้น   แต่ในที่นี้มีความหมาย
17,0031,011,เป็นอย่างนี้    ( มีความหมายคนละอย่าง).     จริงอยู่    ในบรรดาอภิธรรม
17,0031,012,เป็นต้นเหล่านั้น   ในอภิธรรม   และในสุตตบทอื่นนอกจากนี้  สมยศัพท์
17,0031,013,มีความหมายในอธิกรณะ ( สัตตมีวิภัตติ) และมีความหมายภาวลักษณะโดย
17,0031,014,ภาวะ.  เพราะว่า  สมยะ  เป็นอธิกรณะ  มีกาละเป็นอรรถ   และมีสมูหะ
17,0031,015,เป็นอรรถ      และท่านกำหนดว่าเป็นภาวะแห่งธรรมทั้งหลาย      มีผัสสะ
17,0031,016,เป็นต้น     ที่ท่านกล่าวไว้แล้วในที่นั้น ๆ เวลานั้น     โดยภาวะแห่งสมยะ
17,0031,017,กล่าวคือ  ขณะ  การรวบรวมและเหตุ     เพราะฉะนั้น    เพื่อจะให้ใจความ
17,0031,018,นั้นกระจ่าง       ท่านจึงแสดงไขเป็นสัตตมีวิภัตติในบทนั้น.        จริงอยู่  
17,0031,019,สมัยแห่งการบัญญัติสิกขาบทนั้นใด    แม้<B>ท่านพระสารีบุตร</B>เป็นต้น     ก็รู้
17,0031,020,ได้ยาก.                                                                 
17,0031,021,<B>พระผู้มีพระภาคเจ้า</B>เมื่อจะทรงบัญญัติสิกขาบทโดยสมัยนั้น      อัน
17,0031,022,เป็นเหตุ    และเป็นกรณะ     และเมื่อทรงเพ่งถึงเหตุการบัญญัติสิกขาบท