File size: 3,848 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
29,0019,001,ดังนี้  และภิกษุเหล่าใด  ย่อมเป็นผู้มีกัมมัฏฐานเป็นสัปปายะ  ในที่นั้น  เรา  
29,0019,002,จักบอกกัมมัฏฐานแก่ภิกษุเหล่านั้นดังนี้  จึงเสด็จเข้าไปหาข้าพเจ้าจักกล่าว
29,0019,003,บทที่ท่านกล่าวไว้ในบทเป็นอาทิว่า <B>กาเย กายานุปสฺสี</B>  นั้น  ข้างหน้า บทว่า
29,0019,004,<B>อนิจฺจานุปสฺสี</B>    คือพิจารณาเห็นความไม่เที่ยง.   บทว่า   <B>วยานุปสฺสี</B>  คือ
29,0019,005,พิจารณาเห็นความเสื่อม. บทว่า <B>วิราคานุปสฺสี</B> คือพิจารณาเห็นความคลาย
29,0019,006,กำหนัด  บทว่า  <B>นิโรธานุปสฺสี</B>  คือพิจารณาเห็นความดับ.   บทว่า  <B>ปฏินิ-
29,0019,007,สฺสคฺคานุปสฺสี</B>  คือพิจารณาเห็นความสละคือคืน.
29,0019,008,ถามว่า    อะไรเล่า     พระผู้มีพระภาคเจ้า    ทรงแสดงแล้วด้วยคำมี
29,0019,009,ประมาณเท่านี้.   ตอบว่า  ข้อปฏิบัติเป็นเครื่องบรรลุของภิกษุนี้   แม้สติปัฏฐาน
29,0019,010,ย่อมเป็นส่วนเบื้องต้นอย่างเดียว.   อนุปัสสนา  ๓  แม้เหล่านี้ คือ   อนิจจา-
29,0019,011,นุปัสสนา  วยานุปัสนา วิราคานุปัสสนา   แม้ในสัมปชัญญะ   ย่อมเป็นส่วน
29,0019,012,เบื้องต้นอย่างเดียว.   นิโรธานุปัสสนา   แม้ปฏินิสสัคคานุปัสสนา   ทั้ง   ๒
29,0019,013,เหล่านี้    ย่อมเป็นมิสสกะคลุกเคล้ากัน.   พระผู้มีพระภาคเจ้า  ทรงแสดงถึง
29,0019,014,เวลาภาวนาสำหรับภิกษุนี้ด้วยเหตุประมาณเท่านี้.   คำที่เหลือมีนัยอันกล่าว
29,0019,015,แล้วทั้งนั้น.
29,0019,016,<I>จบ อรรถกถาปฐมเคลัญญสูตรที่ ๗</I>
29,0019,017,<H1>๘.  ทุติเคลัญญสูตร</H1>
29,0019,018,<H1>ว่าด้วยควรเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ</H1>
29,0019,019,[๓๘๒]   สมัยหนึ่ง   พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่  ณ  กูฏาคาร-
29,0019,020,ศาลาป่ามหาวัน  กรุงเวสาลี   ครั้งนั้นแล  เป็นเวลาเย็น  พระผู้มีพระภาคเจ้า
29,0019,021,เสด็จออกจากที่หลีกเร้น     เสด็จเข้าไปยังศาลาคนไข้    แล้วประทับนั่งบน