File size: 3,799 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
39,0013,001,<B>ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง  ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
39,0013,002,ชนเหล่านั้นละกายมนุษย์ไปแล้ว  ก็จักไม่เข้าถึงอบาย-
39,0013,003,ภูมิ  จักทำหมู่เทพให้บริบูรณ์</B>   ดังนี้.
39,0013,004,ก็ในข้อนั้น    พึงทราบอธิบายแห่งคาถาอย่างนี้ว่า    ชนเหล่าใด    ถึง
39,0013,005,สรณะด้วยการตัดอุปกิเลสได้ขาดด้วยสรณคมน์   ชนเหล่านั้น   จักไม่ไปอบาย.
39,0013,006,ส่วนชนนอกนั้น  จักไม่ไปอบาย  ก็ด้วยการถึงสรณะ.
39,0013,007,<I>แสดงสรณะขาดไม่ขาดและผลเพียงเท่านี้ก่อน</I>.
39,0013,008,<H3>แสดงสรณะที่ควรถึง</H3>
39,0013,009,ในการแสดงสรณะที่ควรถึง   ผู้ทักท้วงกล่าวว่า  ในคำนี้ว่า  ข้าพเจ้าถึง
39,0013,010,พระพุทธเจ้าเป็นสรณะ  ผู้ใดถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ   ผู้นั้น   จะพึงถึงพระ-
39,0013,011,พุทธเจ้าหรือสรณะ  แม้ทั้งสองคำ  การกล่าวแต่คำเดียว  ก็ไร้ประโยชน์  เพราะ
39,0013,012,เหตุไร   เพราะมีแต่กิริยาคือการถึง   ไม่มีสองกรรม.    ความจริง    นักคิดทาง
39,0013,013,อักษรศาสตร์  ไม่ประสงค์กรรม  ๒ กรรมในข้อนี้  เหมือนในคำว่า  <B>อชํ  คามํ
39,0013,014,เนติ</B>  เป็นต้น ฉะนั้น.
39,0013,015,ถ้าผู้ทักท้วงกล่าวว่า     การกล่าวแม้คำทั้งสองมีแค่ประโยชน์อย่างเดียว
39,0013,016,เหมือนในคำว่า     <B>คจฺฉเตว    ปุพฺพํ    ทิสํ    คจฺฉติ   ปจฺฉิมํ   ทิสํ</B>    นักคิด
39,0013,017,อักษรศาสตร์ไม่ประสงค์อย่างนั้นดอก   เพราะท่านไม่ประสงค์ว่า  พระพุทธเจ้า
39,0013,018,และสรณะเป็นตัวเหตุเท่า ๆ กัน      ความจริงเมื่อประสงค์ว่า     พระพุทธเจ้า
39,0013,019,และสรณะเหล่านั้น   เป็นตัวเหตะเท่า ๆ กันแล้ว   บุคคลแม้มีจิตขุ่นเคือง   เข้า
39,0013,020,เฝ้าพระพุทธเจ้าก็จะพึงชื่อว่า   ถึงพระพุทธเจ้า    ถึงสรณะน่ะสิ    สรณะนั้นใด
39,0013,021,ทำให้ต่างไปว่า  พระพุทธเจ้า.  ผู้นั้นก็ชื่อว่าถึงสรณะนั้นทั้งนั้น.