File size: 4,709 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
Book,Page,LineNumber,Text
39,0038,001,<B>เมื่อว่าโดยธรรม</B>  ในข้อนี้   ปาณาติบาต   อทินนาทานและอพรหม-
39,0038,002,จรรย์  เป็นกายกรรม  และเป็นกรรมบถ  มุสาวาทเป็นวจีกรรมอย่างเดียว  ที่หัก  
39,0038,003,รานประโยชน์  ก็เป็นกรรมบถ  มุสาวาทนอกนี้เป็นกรรมอย่างเดียว   สุราเมรย
39,0038,004,มัชชปมาทัฏฐานเป็นกายกรรมอย่างเดียว  ในข้อนี้    พึงทราบวินิจฉัย   แม้โดย
39,0038,005,กรรมด้วยประการดังกล่าวมาฉะนี้.
39,0038,006,<B>เมื่อว่าโดยวิรัติงดเว้น</B>   ในข้อนี้   ผู้ทักท้วงกล่าวว่า  บุคคลเมืองดเว้น
39,0038,007,จากปาณาติบาตเป็นต้น   งดเว้นจากไหน.    จะกล่าวชี้แจงดังนี้  ก่อนอื่น  บุคคล
39,0038,008,เมื่องดเว้น    โดยสมาทานวิรัติ   ย่อมงดเว้นจากอกุศลกรรมมีปาณาติบาตเป็นต้น
39,0038,009,ของตนเองหรือของคนอื่น ๆ  ปรารภอะไร.    ก็ปรารภอกุศลกรรมที่จะงดเว้น
39,0038,010,นั่นแหละ  เมื่องดเว้นโดยสันปัตตวิรัติ   ย่อมงดเว้นจากอกุศลกรรม  ดังกล่าวแล้ว
39,0038,011,นั่นแล.   ปรารภอะไร.     ก็ปรารภอารมณ์แห่งอกุศลกรรมที่ปาณาติบาตเป็นต้น   
39,0038,012,ที่กล่าวแล้ว.  แต่อาจารย์บางพวกกล่าวว่า  บุคคลปรารภสังขารทั้งหลาย.  ที่นับ
39,0038,013,ได้ว่าน้ำเมา  คือสุราและเมรัยจึงงดเว้นจากที่ดังแห่งความประมาท  คือการดื่มกิน
39,0038,014,น้ำเมาคือสุราและเมรัย.    บุคคลปรารภบรรดาสัตว์และสังขารเฉพาะที่ตนพึงลัก
39,0038,015,และพึงหักราน   จึงงดเว้นจากอทินนาทานและมุสาวาท.   ปรารภสัตว์อย่างเดียว
39,0038,016,จึงงดเว้นจากปาณาติบาตและอพรหมจรรย์.      อาจารย์นอกจากนั้นมีความเห็น
39,0038,017,อย่างนี้ว่าเมื่อเป็นเช่นนั้น    บุคคลเมื่อคิดอย่างหนึ่ง  ก็ทำเสียอย่างหนึ่ง  ละสิ่งใด
39,0038,018,ก็ไม่รู้สิ่งนั้น   ดังนี้เมื่อไม่ต้องการ [อย่างนั้น] จึงกล่าวว่า บุคคลละสิ่งใดก็ปรารภ
39,0038,019,สิ่งนั้นคือ  อกุศลกรรมมีปาณาติบาตเป็นต้นของตนนั่นแล  จึงงดเว้น.  คำนั้นไม่ถูก
39,0038,020,เพราะเหตุไร เพื่อสิ่งนั้นไม่อารมณ์ปัจจุบัน  และไม่มีอารมณ์ภายนอก. จริงอยู่
39,0038,021,ในบาลีวิภังค์แห่งสิกขาบททั้งหลาย  ท่านถามว่า สิกขาบททั้ง ๕ เป็นกุศลเท่าไร
39,0038,022,ฯลฯ  เป็นอรณะเท่าไร   แล้วในการตอบปัญหาที่ดำเนินไปอย่างนี้ว่า   กุศลทั้ง