File size: 4,509 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
45,0046,001,ไม่ใช่เป็นความหมายที่ไม่สูงสุด  เหมือนอย่างความหมายที่ต้องรับไว้ด้วยการฟัง
45,0046,002,กันสืบ ๆ มาเป็นต้น    ความหมายเป็นปรมัตถสภาวะมีสัททรูปคือเสียงเป็นต้น
45,0046,003,และมีการแตกสลาย  มีการเสวยอารมณ์เป็นต้น  มีอยู่ด้วยอำนาจสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์.
45,0046,004,ส่วนความหมายอันใดมีความหมายถึงอาการเป็นต้น    ที่กำลังกล่าวอยู่ว่า   อิติ
45,0046,005,และว่า   เม   ความหมายอันนั้นมิใช่ปรมัตถสภาวะ  คือ  ไม่ได้ด้วยอำนาจสัจ-
45,0046,006,ฉิกัฏฐปรมัตถ์  ชื่อว่า  อวิชชมานบัญญัติ.  ถามว่า  บรรดาบททั้ง  ๓  นี้  บท
45,0046,007,ใดพึงได้การแสดงอ้างว่า   อิติ  หรือว่า  เม  บทนั้นมีอยู่โดยปรมัตถ์หรือ  ?
45,0046,008,ตอบว่า   บทว่า   <B>สุตํ</B>   เป็นวิชชมานบัญญัติ.   อธิบายว่าอารมณ์ที่ได้รับทาง
45,0046,009,โสตประสาทนั้น   มีอยู่โดยปรมัตถ์.
45,0046,010,อนึ่ง   บทว่า   <B>อิติ</B>  จัดเป็นอุปทายบัญญัติ   เพราะจะพึงกล่าวด้วย
45,0046,011,อำนาจการพาดพิงถึงอาการทั้งหลาย   มีอาการที่ทรงจำไว้เป็นต้นเหล่านั้นได้ก็
45,0046,012,โดยอาศัยธรรมทั้งหลายที่มากระทบโสต.   บทว่า  <B>เม</B>   ชื่อว่า   เป็นอุปาทาย-
45,0046,013,บัญญัติ   เพราะจะต้องพูดถึง  โดยอาศัยขันธ์ทั้งหลายที่นับเนื่องในสันตติ  ซึ่งที่
45,0046,014,สูงสุดโดยพิเศษมีการณะเป็นต้น.   บทว่า   <B>สุตํ</B>   ชื่อว่าเป็นอุปนิธายบัญญัติ
45,0046,015,เพราะจะต้องพูดถึง   โดยเปรียบเทียบกันอารมณ์ทั้งหลายมีรูปที่ได้เห็นเป็นต้น
45,0046,016,โวหารว่า   สุตะ  แม้เป็นไปในสัททายตนะ   ที่เว้นจากสภาวะของรูปที่ได้เห็น
45,0046,017,เป็นต้น   จะต้องพูดถึงโดยเปรียบเทียบกับรูปที่ได้เห็นเป็นต้น    เพราะเป็นสิ่งที่ 
45,0046,018,พึงทราบชัดว่า  สิ่งใดไม่มุ่งถึงรูปที่ได้เห็น   กลิ่น  รส  โผฏฐัพพะ  ที่ได้ทราบ
45,0046,019,และอารมณ์ที่ได้รู้แจ้ง  สิ่งนั้นจัดเป็นสุตะ<SUP>๑</SUP>  เปรียบเหมือนโวหารว่า  ทุติยฌาณ
45,0046,020,ตติยฌาณเป็นต้น   จะต้องพูดถึงโดยอาศัยปฐมฌานเป็นต้น  ฉะนั้น   เพราะเหตุ
45,0046,021,นั้น     ท่านจึงประกาศเนื้อความนี้ไว้ว่า  ชื่อว่า  สุตะ  เพราะไม่ใช่  ไม่ได้ฟังมา.