File size: 3,976 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
Book,Page,LineNumber,Text
47,0041,001,ว่าเป็นรัตนะไม่  ฉันนั้น  ด้วยว่าในที่ใดไม่มีรัตนะ  ที่นั้นก็ยังสำเร็จว่าเป็นรัตนะ 
47,0041,002,ได้   แต่ในที่ใดมีความเป็นรัตนะ    ที่ถึงความสัมพันธ์กัน    โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง
47,0041,003,กล่าวคือประโยชน์   มีการกระทำความเคารพเป็นต้น   ที่นั้นก็ย่อมปรากฏว่าเป็น
47,0041,004,รัตนะได้  ก็หมายถึงความเป็นรัตนะ   เพราะฉะนั้น   ที่นั้นจึงสำเร็จว่ารัตนะได้
47,0041,005,เพราะความมีอยู่แห่งความเป็นรัตนะนั้น.
47,0041,006,อีกอย่างหนึ่ง  ด้วยคำว่า   <B>อิทมฺปิ  พุทฺเธ    รตนํ</B>  พึงทราบเนื้อความ
47,0041,007,ในคำนี้อย่างนี้ว่า    โดยเหตุแม้นี้     พระพุทธเจ้าแล     จัดว่าเป็นรัตนะก็ด้วย
47,0041,008,พระคาถา   มีประมาณเท่าที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้แล้วนี้    ความสวัสดีเกิด
47,0041,009,แล้ว แก่ราชสกุล    ภัยก็สงบแล้ว.    ด้วยคาถาแม้นี้    อาชญา  (อำนาจป้องกัน )
47,0041,010,อันอมนุษย์ทั้งหลายในแสนโกฏิจักรวาลได้รับแล้ว.
47,0041,011,พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสสัจวาจาด้วยพุทธคุณอย่างนี้แล้ว   บัดนี้
47,0041,012,เมื่อจะตรัสด้วยธรรมคุณคือพระนิพพาน  จึงทรงเริ่มว่า  <B>ขยํ  วิราคํ อมตํ ปณีตํ</B>
47,0041,013,เป็นต้น.
47,0041,014,พึงทราบวินิจฉัยในคาถานั้น    ดังต่อไปนี้ :-
47,0041,015,เพราะเหตุที่กิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้น    สิ้นไปแล้วคือสิ้นไปรอบแล้ว
47,0041,016,เพราะกระทำพระนิพพานให้แจ้ง   หรือเพราะเหตุที่ว่า    พระนิพพานนั้น     เป็น
47,0041,017,ธรรมชาติสักว่า   ไม่บังเกิดขึ้น   ดับและสิ้นไปแห่งกิเลสมีราคะเป็นต้น  เหล่านั้น
47,0041,018,และเพราะเหตุที่พระนิพพานนั้น    ไม่ประกอบด้วยราคะเป็นต้น  ทั้งโดยสัมปโยค
47,0041,019,ทั้งโดยอารมณ์   หรือเพราะเหตุที่ว่าพระนิพพานนั้น     อันพระอริยบุคคลทำให้
47,0041,020,แจ้งแล้ว   กิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้น    ก็พลัดพรากออกไปโดยส่วนเดียว  คือ