tripitaka-mbu / 17 /170035.csv
uisp's picture
add data
3c90236
raw
history blame
4.11 kB
Book,Page,LineNumber,Text
17,0035,001,<B>พระผู้มีพระภาคเจ้า</B>พระองค์นั้น ทรงผ่อนคลายความปวดเมื่อยจาก
17,0035,002,อิริยาบถหนึ่งด้วยอิริยาบถหนึ่ง ย่อมทรงบริหาร คือยังทรงอัตภาพให้
17,0035,003,เป็นไปมิให้ทรุดโทรม. เพราะฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ประทับอยู่ ดังนี้.
17,0035,004,<H1>ที่มาของป่าสุภควัน</H1>
17,0035,005,ในบทว่า <B>สุภควเน</B> นี้ พึงทราบวินิจฉัย ดังต่อไปนี้. ป่าชื่อว่า
17,0035,006,<B>สุภคะ</B> เพราะถึงความงาม อธิบายว่า เพราะสง่างาม และเพราะมีสิ่งที่
17,0035,007,พึงประสงค์สวยงาม. ก็เพราะความสวยงามของป่านั้น ผู้คนทั้งหลายจึง
17,0035,008,พากัน ถือเอาข้าวและน้ำเป็นต้น ไปดื่มกินเที่ยวเล่นสนุกสนานอยู่ในป่านั้น
17,0035,009,นั่นแลตลอดทั้งวัน และปรารถนาสิ่งที่เขาปรารถนาดี ๆ ในที่นั้นว่า
17,0035,010,ขอเราทั้งหลายจงได้ลูกชายลูกหญิงเถิด และสิ่งที่พึงปรารถนานั้นเขาก็ได้
17,0035,011,สมปรารถนาทีเดียว ป่านั้นชื่อว่า <B>สุภคะ</B> เพราะสง่างาม และเพราะมี
17,0035,012,สิ่งที่พึงประสงค์สวยงาม ดังพรรณนามานี้. อีกอย่างหนึ่งชื่อว่า <B>สุภคะ</B>
17,0035,013,แม้เพราะคนส่วนมากติดใจ ชื่อว่า <B>วนะ</B> (ป่า) เพราะอรรถว่า สัตว์
17,0035,014,ทั้งหลายชอบใจ คือทำให้สัตว์ทั้งหลายรักใคร่ด้วยคุณสมบัติของตัวมันเอง
17,0035,015,อธิบายว่า ให้เกิดความน่ารักในตัวเอง ดังนี้.
17,0035,016,อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า <B>วนะ</B> (ป่า) เพราะเรียกหา อธิบายว่า
17,0035,017,เหมือนเรียกร้องปวงสัตว์ด้วยเสียงร้องของนก มีนกโกกิลาเป็นต้น ที่
17,0035,018,เพลิดเพลินอยู่กับกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ และด้วยกิ่งก้านค่าคบใบแก่
17,0035,019,ใบอ่อนของต้นไม้ที่สั่นไหว เพราะต้องลมอ่อนว่า มาเถิด มากินมาใช้
17,0035,020,กันเถิด. ป่านั้นด้วย ถึงความงามด้วย ฉะนั้น จึงชื่อว่า <B>สุภควัน</B>. ใน
17,0035,021,<B>ป่าสุภควัน</B>นั้น. ธรรมดาป่า มี ๒ ชนิด คือ ป่าลูก และป่าเกิดเอง.