|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
21,0042,001,[๔๔๙] ท่านรัฐปาละกล่าวว่า โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้อง
|
|
21,0042,002,ทิ้งสิ่งทั้งปวงไป ดังนี้ ก็เนื้อความแห่งภาษิตนี้ จะพึงเห็นได้อย่างไร.
|
|
21,0042,003,ดูก่อนมหาบพิตร มหาบพิตรจะทรงเข้าพระทัยความข้อนั้นเป็นไฉน
|
|
21,0042,004,เดี๋ยวนี้มหาบพิตรเอิบอิ่ม พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ ๕ บำเรอพระองค์อยู่ ฉันใด
|
|
21,0042,005,มหาบพิตรจักได้สมพระราชประสงค์ว่า แม้ในโลกหน้า เราจักเป็นผู้เอิบอิ่ม
|
|
21,0042,006,พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ ๕ บำเรอตนอยู่ ฉันนั้น หรือว่าชนเหล่าอื่นจักปกครอง
|
|
21,0042,007,โภคสมบัตินี้ ส่วนมหาบพิตรก็จักเสด็จไปตามยถากรรม.
|
|
21,0042,008,ท่านรัฐปาละ เดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้าเอิบอิ่ม พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ ๕
|
|
21,0042,009,บำเรอตนอยู่ ฉันใด ข้าพเจ้าจักไม่ได้ความประสงค์ว่า แม้ในโลกหน้า เรา
|
|
21,0042,010,จะเป็นผู้เอิบอิ่มพรั่งพร้อมด้วยกามคุณ ๕ บำเรอตนอยู่ ฉันนั้น ที่แท้ ชน
|
|
21,0042,011,เหล่าอื่นจักปกครองโภคสมบัตินี้ ส่วนข้าพเจ้าก็จักไปตามยถากรรม.
|
|
21,0042,012,ดูก่อนมหาบพิตร เนื้อความนี้แล อันพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
|
|
21,0042,013,ผู้ทรงรู้ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงหมายถึงตรัสธัมมุทเทส
|
|
21,0042,014,ข้อที่สามว่า โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป ที่อาตมภาพ
|
|
21,0042,015,รู้เห็นและได้ฟังแล้ว จึงออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต.
|
|
21,0042,016,ดูก่อนท่านรัฐปาละ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีแล้ว ข้อว่าโลกไม่มีอะไร
|
|
21,0042,017,เป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไปนี้ อันพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
|
|
21,0042,018,ผู้ทรงรู้ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมนาสัมพุทธเจ้า ตรัสดีแล้ว ท่านรัฐปาละ
|
|
21,0042,019,เป็นความจริง โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป.
|
|
21,0042,020,[๔๕๐] ท่านรัฐปาละกล่าวว่า โลกพร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม
|
|
21,0042,021,เป็นทาสแห่งตัณหา ดังนี้ ก็เนื้อความแห่งภาษิตนี้ จะพึงเห็นได้อย่างไร.
|
|
21,0042,022,ดูก่อนมหาบพิตร มหาบพิตรจะเข้าพระทัยความข้อนั้นเป็นไฉน มหา-
|
|
21,0042,023,บพิตรทรงครอบครองกุรุรัฐอันเจริญอยู่หรือ.
|
|
|