|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
06,0014,001,พึงทราบวินิจฉัยในตติยวาร:-
|
|
06,0014,002,สามบทว่า <B>อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ</B> มีความว่า ทรงเปล่งอุทาน
|
|
06,0014,003,มีประการดังกล่าวแล้วนี้ ซึ่งแสดงอานุภาพแห่งอริยมรรคที่เป็นเหตุ ทรงทราบ
|
|
06,0014,004,เนื้อความกล่าวคือความเกิดและความดับแห่งกองทุกข์นั้น ด้วยอำนาจกิจ
|
|
06,0014,005,และด้วยทำให้เป็นอารมณ์.
|
|
06,0014,006,ความสังเขปในอุทานนั้นดังต่อไปนี้:- เมื่อใดแล ธรรมทั้งหลาย
|
|
06,0014,007,ปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้น พราหมณ์นั้นย่อมกำจัด เสนา
|
|
06,0014,008,มารด้วยโพธิปักขิยธรรมซึ่งเกิดแล้วเหล่านั้น หรือด้วยอริยมรรคเป็นเครื่อง
|
|
06,0014,009,ปรากฏแห่งจตุสัจจธรรมาดำรงอยู่ ข้อว่า <B>วิธูปยํ ติฏฺติ มารเสนํ</B> ความ
|
|
06,0014,010,ว่า ย่อมกำจัด คือผจญ ปราบเสนามาร มีประการดังกล่าวแล้ว โดยนัยเป็น
|
|
06,0014,011,ต้นว่า การทั้งหลาย เป็นเสนาที่ ๑ ของท่านดังนี้<SUP>๑</SUP> ดำรงอยู่.
|
|
06,0014,012,ถามว่า กำจัดอย่างไร ?
|
|
06,0014,013,ตอบว่า เหมือนพระอาทิตย์ส่องอากาศให้สว่างฉะนั้น.
|
|
06,0014,014,อธิบายว่า พระอาทิตย์ขึ้นไปแล้ว เมื่อส่องอากาศให้สว่างด้วย
|
|
06,0014,015,รัศมีของตนแล ชื่อว่ากำจัดมืดเสีย ข้อนี้ฉันใด. พราหมณ์แม้นั้นเมื่อตรัสรู้
|
|
06,0014,016,สัจจะทั้งหลายด้วยธรรมเหล่านั้นหรือด้วยมรรคนั้นแล ชื่อว่ากำจัดเสนามารเสีย
|
|
06,0014,017,ได้ ข้อนี้ก็ฉันนั้น เพราะฉะนั้น ผู้ศึกษาพึงทราบสันนิษฐานว่าใน ๓ อุทาน
|
|
06,0014,018,นี้ อุทานที่ ๑ เกิดขึ้นด้วยอำนาจความพิจารณาปัจจยาการ อุทานที่ ๒ เกิดขึ้น
|
|
06,0014,019,ด้วยอำนาจความพิจารณาพระนิพพาน อุทานที่ ๓ เกิดขึ้นด้วยอำนาจความ
|
|
06,0014,020,พิจารณามรรค ด้วยประการฉะนี้.
|
|
|