|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
08,0018,001,๕. แม้ได้รับสมมติไว้แล้ว ก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี
|
|
08,0018,002,๖. ถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรมเพราะอาบัติใด ไม่พึงต้องอาบัตินั้น
|
|
08,0018,003,๗. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นอันเช่นกัน
|
|
08,0018,004,๘. ไม่พึงต้องอาบัติอันเลวทรามกว่านั้น
|
|
08,0018,005,๙. ไม่พึงติกรรม
|
|
08,0018,006,๑๐. ไม่พึงติภิกษุทั้งหลายผู้ทำกรรม
|
|
08,0018,007,๑๑. ไม่พึงห้ามอุโบสถแก่ปกตัดตะภิกษุ
|
|
08,0018,008,๑๒. ไม่พึงห้ามปวารณาแก่ปกตัตตะภิกษุ
|
|
08,0018,009,๑๓. ไม่พึงทำการไต่สวน
|
|
08,0018,010,๑๔. ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์
|
|
08,0018,011,๑๕. ไม่พึงยังภิกษุอื่นให้ทำโอกาส
|
|
08,0018,012,๑๖. ไม่พึงโจทภิกษุอื่น
|
|
08,0018,013,๑๗. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ
|
|
08,0018,014,๑๘. ไม่พึงช่วยภิกษุต่อภิกษุให้สู้อธิกรณ์กัน.
|
|
08,0018,015,วัตร ๑๘ ข้อ ในตัชชนียกรรม จบ
|
|
08,0018,016,<H1>วัตรที่ควรระงับและไม่ควรระงับ</H1>
|
|
08,0018,017,[๓๕] ครั้งนั้น สงฆ์ได้ลงตัชชนียกรรมแก่ภิกษุพวกพระปัณฑุกะ
|
|
08,0018,018,และพระโลหิตกะแล้ว พวกนั้นถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรมแล้ว ประพฤติโดย
|
|
08,0018,019,ชอบหายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ เข้าไปหาภิกษุทั้งหลายแล้วกล่าวอย่าง
|
|
08,0018,020,นี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย พวกผมถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรมแล้ว ได้ประพฤติ
|
|
|