|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
18,0026,001,บูชาย่อมได้พระศาสดาทรงมีทิฏฐิใด ทิฏฐินั้นเป็นต้นเหตุแห่งจีวร บิณฑบาต
|
|
18,0026,002,เสนาสนะ. คิลานปัจจัย เภสัชและบริขารทั้งหลาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็น
|
|
18,0026,003,อานิสงส์ที่ประกอบด้วยทิฏฐิธรรมแห่งทิฏฐิ. บทว่า <B>อาทีนวํ</B> ได้แก่ อุปัททวะ
|
|
18,0026,004,ซึ่งมีการยึดถือทิฏฐิเป็นมูล. อาทีนพนั้น พึงทราบด้วยอำนาจแห่งวัตรทั้งหลายมี
|
|
18,0026,005,อาทิว่า วัคคุลิวัตร อุกกุฏิกปธานะ กัณฏกาปัสสยตา ปัญจาตปตัปปนะ
|
|
18,0026,006,มรุปปปาตปตนะ เกสมัสสุโลจนะ อัปปาณกฌาน. บทว่า <B>นิสฺสรณํ</B> ได้แก่
|
|
18,0026,007,นิพพาน ชื่อว่า สลัดออกซึ่งทิฏฐิทั้งหลาย. บทว่า <B>ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ</B>
|
|
18,0026,008,ความว่า สมณะหรือ พราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้สมุทัยเป็นต้นนั้นทั้งหมด ตาม
|
|
18,0026,009,สภาวะ. บทว่า <B>น ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมา</B> ความว่า ไม่หลุดพ้นจากวัฏฏทุกข์
|
|
18,0026,010,ทั้งสิ้น. ด้วยบทนี้ ทรงแสดงว่า ชื่อว่า ความสำเร็จของสมณะหรือพราหมณ์
|
|
18,0026,011,เหล่านั้นไม่มี. บทว่า <B>ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมา</B> ความว่า ย่อมหลุดพ้นจาก
|
|
18,0026,012,วัฏฏทุกข์ทั้งสิ้น. ด้วยบทนี้ ทรงตั้งไว้ซึ่งความสำเร็จมีในศาสนาเท่านั้น ดุจ
|
|
18,0026,013,ทรงตัดสินคดีของลูกความทั้งสองว่า ความสำเร็จของสมณะหรือพราหมณ์เหล่า
|
|
18,0026,014,นั้น มีอยู่ ดังนี้.
|
|
18,0026,015,บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงการตัดทิฏฐิ จึงตรัสว่า
|
|
18,0026,016,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุปาทาน ๔ อย่างเหล่านี้เป็นต้น. กถาว่าด้วยความพิสดาร
|
|
18,0026,017,ของอุปาทานเหล่านั้น ได้กล่าวแล้วในวิสุทธิมรรคนั้นเทียว. บทว่า <B>สพฺพูปา-
|
|
18,0026,018,ทานปริญฺาวาทา ปฏิชานมานา</B> ความว่า ปฏิญาณอย่างนี้ว่า เราทั้งหลาย
|
|
18,0026,019,ย่อมกล่าวความรอบรู้ คือ ความก้าวล่วงอุปาทานทุกอย่าง. บทว่า <B>น สมฺมา
|
|
18,0026,020,สพฺพูปาทานสฺส ปริญฺํ ปญฺเปนฺติ</B> ความว่า ย่อมไม่บัญญัติการก้าวล่วง
|
|
18,0026,021,อุปาทานทุกอย่างโดยชอบ. บางพวกบัญญัติความรอบรู้เพียงกามูปาทานเท่านั้น
|
|
18,0026,022,บางพวกบัญญัติความรอบรู้เพียงทิฏฐุปาทาน บางพวกบัญญัติความรอบรู้แม้
|
|
18,0026,023,เพียงสีลัพพตูปาทาน. แต่ผู้ชื่อว่าบัญญัติความรอบรู้อัตตวาทูปาทานไม่มี. ก็
|
|
|