|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
19,0025,001,ราตรีแจ่มกระจ่าง ไม้สาละมีดอกบานสะพรั่งทั่วต้น กลิ่นคล้ายทิพย์ ย่อมฟุ้ง
|
|
19,0025,002,ไป ท่านอานนท์ ป่าโคสิงคสาลวัน จะพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานไร.
|
|
19,0025,003,ท่านพระอานน์ตอบว่า ท่านสารีบุตร ภิกษุในพระศาสนานี้เป็น
|
|
19,0025,004,พหูสูต เป็นผู้ทรงสุตะสั่งสมสุตะ ธรรมเหล่านั้นใด งามในเบื้องต้น งามใน
|
|
19,0025,005,ท่ามกลาง งามในที่สุด พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ ประกาศพรหม-
|
|
19,0025,006,จรรย์บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง ธรรมเห็นปานนั้น อันภิกษุนั้นสดับมาก
|
|
19,0025,007,แล้ว ทรงไว้แล้ว สั่งสมด้วยวาจา ตามเพ่งด้วยใจ แทงตลอดดีแล้วด้วยความ
|
|
19,0025,008,เห็น ภิกษุนั้นแสดงธรรมแก่บริษัท ๔ ด้วยบทและพยัญชนะอันราบเรียบไม่
|
|
19,0025,009,ขาดสาย เพื่อถอนเสียซึ่งอนุสัย ท่านสารีบุตร ป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วย
|
|
19,0025,010,ภิกษุเห็นปานนี้แล.
|
|
19,0025,011,[๓๗๑] เมื่อท่านพระอานนท์กล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระสารีบุตร
|
|
19,0025,012,ได้กล่าวกะท่านพระเรวตะว่า ท่านเรวตะ ปฏิภาณตามที่เป็นของตน ท่าน
|
|
19,0025,013,อานนท์พยากรณ์แล้ว บัดนี้ เราขอถามเรวตะในข้อนั้นว่า ป่าโคสิงคสาลวัน
|
|
19,0025,014,เป็นสถานน่ารื่นรมย์ ราตรีแจ่มกระจ่าง ไม้สาละมีดอกบานสะพรั่งทั่ว
|
|
19,0025,015,ต้น กลิ่นคล้ายทิพย์ย่อมฟุ้งไป ท่านเรวตะ ป่าโคสิงคสาลวัน จะพึงงามด้วย
|
|
19,0025,016,ภิกษุเห็นปานไร.
|
|
19,0025,017,ท่านพระเรวะตอบว่า ท่านสารีบุตร ภิกษุในพระศาสนานี้ เป็น
|
|
19,0025,018,ผู้มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความหลีกเร้น ประกอบเนืองๆ
|
|
19,0025,019,ซึ่งเจโตสมถะอันเป็นภายใน มีฌานอันไม่ห่างเหินแล้ว ประกอบด้วยวิปัสนา
|
|
19,0025,020,พอกพูนสุญญาคาร ท่านสารีบุตร ป่าโคสิงคสาลวันพึงงามด้วยภิกษุเห็น
|
|
19,0025,021,ปานนี้แล.
|
|
|