|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
19,0042,001,นั่งในที่พักกลางวันของตน เห็นพระมหาเถระเข้าไปหาอย่างนี้แล้วคิดว่า
|
|
19,0042,002,การฟังธรรมเป็นอันมากจักมีในวันนี้ แม้เราก็พึงเป็นผู้มีส่วนการฟังธรรม
|
|
19,0042,003,นั้น ก็แหละเราจักไม่ไปผู้เดียว จักพาเอาพระเรวตเถระเพื่อนรักของเรา
|
|
19,0042,004,ไปด้วย. เรื่องทั้งหมดพึงทราบความพิสดารตามนัยที่กล่าวแล้ว ในการเข้า
|
|
19,0042,005,ไปหาของพระมหาโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะพระอนุรุทธะพระเถระ
|
|
19,0042,006,ทั้ง ๒ รูปนั้น ยืนเรียงกันรุ่งโรจน์ ดุจพระจันทร์ ๒ ดวง ดุจพระอาทิตย์
|
|
19,0042,007,๒ ดวง และดุจราชสีห์ ๒ ตัว เข้าไปหาด้วยประการฉะนี้. เพราะฉะนั้นท่าน
|
|
19,0042,008,จึงกล่าวว่า ท่านพระสารีบุตรได้เห็นแล้ว ดังนี้เป็นต้น. บทว่า <B>ทิสฺวาน
|
|
19,0042,009,อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ</B> ความว่า ท่านพระสารีบุตรเห็นแต่ไกล จึง
|
|
19,0042,010,ได้กล่าวคำเป็นต้นนี้ประกอบด้วยอุปจารกถา โดยลำดับว่าขอท่านจงมาเถิด
|
|
19,0042,011,ดังนี้. ในบทว่า <B>รมณียํ อาวุโส</B> นี้ได้แก่ ป่าที่น่ารื่นรมย์ ๑ บุคคลที่น่า
|
|
19,0042,012,รื่นรมย์ ๑
|
|
19,0042,013,ใน ๒ อย่างนั้น ชื่อว่า ป่าดาดาษ ด้วยต้นกากะทิง สาละ และจำปา
|
|
19,0042,014,เป็นต้น มีร่มเงาหนามีต้นไม้ต่างๆ เผล็ดดอกออกผลมีน้ำพร้อม นอกหมู่
|
|
19,0042,015,บ้าน ป่านี้ ชื่อว่า เป็นที่น่ารื่นรมย์ ท่านกล่าวหมายเอาว่า
|
|
19,0042,016,<B>ป่าทั้งหลายเป็นที่น่ารื่นรมย์ ท่านผู้มีราคะไปปราศแล้วทั้ง
|
|
19,0042,017,หลาย จักยินดีในป่าอันไม่เป็นที่ยินดีของชน เพราะท่าน
|
|
19,0042,018,ผู้มีราคะไปปราศแล้วเหล่านั้น เป็นผู้มีปกติไม่แสวงหากาม
|
|
19,0042,019,ดังนี้.</B>
|
|
19,0042,020,ถ้าว่าป่าเป็นที่ดอน น้ำไม่มี ร่มเงาโปร่งมีหนามรก ส่วนพระอริยะ มีพระพุทธ
|
|
19,0042,021,เจ้าเป็นต้นประทับอยู่ในป่านี้ ป่านี้ ชื่อว่า บุคคลน่ารื่นรมย์ ท่านกล่าวหมาย
|
|
19,0042,022,เอาว่า พระอรหันต์ทั้งหลายอยู่ ณ ที่ใด เป็นบ้านก็ตาม เป็นป่าก็ตาม ที่ลุ่มก็
|
|
19,0042,023,ตาม ที่ดอนก็ตาม ที่นั้นเป็นภูมิสถานน่ารื่นรมย์ ดังนี้. ส่วนในที่นี้ได้ที่ทั้ง
|
|
|