|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
20,0039,001,ดุจผลมะขามป้อมอันวางไว้บนฝ่ามือ. อีกอย่างหนึ่ง ทรงรู้ด้วยปุพเพนิวาสญาณ
|
|
20,0039,002,เป็นต้น ทรงเห็นด้วยทิพยจักษุ. ก็หรือว่า ทรงรู้ด้วยวิชชา ๓ หรือ อภิญญา ๖
|
|
20,0039,003,ทรงเห็นด้วยสมันตจักษุ อันอะไร ๆ ไม่ขัดขวางในธรรมทั้งปวง. ทรงรู้ด้วย
|
|
20,0039,004,ปัญญาอันสามารถรู้ธรรมทั้งปวง. ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลายที่ล่วงจักษุวิสัยของสัตว์
|
|
20,0039,005,ทั้งปวง หรือที่อยู่นอกฝาเรือนเป็นต้น ด้วยมังสจักษุอันบริสุทธิ์ยิ่ง. ทรงรู้
|
|
20,0039,006,ด้วยปัญญา อันให้สำเร็จประโยชน์ส่วนพระองค์ ทรงเห็นด้วยเทศนาปัญญา
|
|
20,0039,007,อันมีพระกรุณาเป็นปทัฏฐาน อันให้สำเร็จประโยชน์แก่ผู้อื่น. ชื่อว่า<B>พระอร-
|
|
20,0039,008,หันต์ </B> เพราะทรงกำจัดข้าศึกเสียได้ และเพราะควรแก้การสักการะมีปัจจัย
|
|
20,0039,009,เป็นต้น. ส่วนชื่อว่า <B>สัมมาสัมพุทธะ</B> เพราะตรัสรู้สัจจะ ๔ โดยชอบ และ
|
|
20,0039,010,ด้วยพระองค์เอง. อีกอย่างหนึ่ง ทรงรู้อันตรายยิกธรรม ทรงเห็นนิยยานิกธรรม
|
|
20,0039,011,เป็นพระอรหันต์ เพราะกำจัดข้าศึกคือกิเลส เป็นพระสัมมาสัมพุทธะ เพราะ
|
|
20,0039,012,ตรัสรู้ธรรมทั้งปวงด้วยพระองค์เอง รวมความว่า พระองค์ถูกสดุดีด้วยเหตุ ๔
|
|
20,0039,013,คือ เวสารัชชธรรม ๔ อย่างนี้แล้ว จึงตรัสว่า ธรรมอันเอกมีอยู่หรือหนอ ?
|
|
20,0039,014,บทว่า <B>อภิสงฺขตํ</B> แปลว่า อันปัจจัยกระทำแล้ว ให้เกิดแล้ว.
|
|
20,0039,015,บทว่า <B>อภิสญฺเจตยิตํ</B> ความว่า ก่อให้สำเร็จแล้ว. คำว่า <B>โส ตตฺถ ิโต</B>
|
|
20,0039,016,ความว่า คฤหบดีนั้นตั้งอยู่แล้วในธรรมคือสมถะ และ วิปัสสนานั้น. ด้วย
|
|
20,0039,017,สองบทว่า <B>ธมฺมราเคน ธมฺมนนฺทิยา</B> พระองค์ตรัสฉันทราคะในสมถะ
|
|
20,0039,018,และวิปัสสนา. จริงอยู่ บุคคลเมื่อสามารถครอบงำฉันทราคะโดยประการทั้งปวง
|
|
20,0039,019,ในสมถะและวิปัสสนาย่อมเป็นพระอรหันต์ เมื่อไม่สามารถก็จักเป็นพระอนาคามี
|
|
20,0039,020,เธอย่อมบังเกิดในชั้นสุทธาวาส ด้วยเจตนาอันสัมปยุตด้วยจตุตถฌาน เพราะ
|
|
20,0039,021,ยังละฉันทราคะในสมถะและวิปัสสนาไม่ได้. นี้เป็นกถาสำหรับอาจารย์ทั้งหลาย.
|
|
20,0039,022,"ก็นักชอบพูดเคาะ พูดว่า ""พระอนาคามีบังเกิดในสุทธาวาสเพราะอกุศล ตาม"
|
|
|