tripitaka-mbu / 26 /260002.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
26,0002,001,ปฏิจจสมุปบาทเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
26,0002,002,จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย. จึงมีวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็น
26,0002,003,ปัจจัย จึงมีนามรูป เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ เพราะ
26,0002,004,สฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
26,0002,005,เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
26,0002,006,เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะ
26,0002,007,ชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ โสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาส
26,0002,008,ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ นี้เราเรียก
26,0002,009,ว่าปฏิจจสมุปบาท.
26,0002,010,[๓] ก็เพราะอวิชชานั่นแหละดับด้วยการสำรอกโดยไม้เหลือ
26,0002,011,สังขารจึงดับ เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ เพราะวิญญาณดับ
26,0002,012,นามรูปจึงดับ เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ เพราะสฬายตนะดับ
26,0002,013,ผัสสะจึงดับ เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ เพราะเวทนาดับ ตัณหา
26,0002,014,จึงดับ เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
26,0002,015,เพราะภพดับ ชาติจึงดับ เพราะชาติดับ ชราและมรณะโสกปริเทวทุกข-
26,0002,016,โทมนัสและอุปายาสจึงดับ ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วย
26,0002,017,ประการอย่างนี้. <B>พระผู้มีพระภาคเจ้า</B>ได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้แล้ว ภิกษุ
26,0002,018,เหล่านั้นมีใจยินดีชื่นชมภาษิตของ<B>พระผู้มีพระภาคเจ้า</B>แล้ว.
26,0002,019,จบเทศนาสูตรที่ ๑