|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
26,0018,001,สมุปปาทกถา นั้น ผู้ศึกษาพึงถือเอาโดยความที่กล่าวไว้ในคัมภีร์วิสุทธิ์-
|
|
26,0018,002,มรรคนั้นแล.
|
|
26,0018,003,ก็ในปฏิโลมกถา คำว่า <B>อวิชฺชายเตฺวว</B> ตัดเป็น <B>อวิชฺชาย ตุ เอว.</B>
|
|
26,0018,004,บทว่า <B>อเสสวิราคนิโรธา</B> ได้แก่เพราะอวิชชาดับโดยไม่เหลือด้วยมรรค
|
|
26,0018,005,กล่าวคือวิราคะ (การสำรอก). การที่สังขารดับโดยไม่เกิดขึ้น (อีก)
|
|
26,0018,006,ชื่อสังขารนิโรธะ (สังขารดับ). ก็เพื่อแสดงว่า เพราะการดับสังขาร
|
|
26,0018,007,และเพราะการดับขันธ์ ๕ มีวิญญาณเป็นต้น ที่ดับไปแล้วอย่างนี้ นามรูป
|
|
26,0018,008,ชื่อว่า เป็นของดับไปแล้วเหมือนกัน พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
|
|
26,0018,009,<B>สงฺขารนิโรธา วิญฺาณนิโรโธ</B> เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ
|
|
26,0018,010,เป็นต้น แล้วตรัสว่า <B>เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ</B>
|
|
26,0018,011,<B>โหติ</B> ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการฉะนี้. บรรดา
|
|
26,0018,012,บทเหล่านั้น บทว่า <B>เกวลสฺส</B> แปลว่า ทั้งสิ้น คือล้วน ๆ อธิบายว่า
|
|
26,0018,013,เว้นแล้วจากสัตว์. บทว่า <B>ทุกฺขกฺขนฺธสฺส</B> แปลว่า กองทุกข์. คำว่า
|
|
26,0018,014,<B>นิโรโธ โหติ</B> คือการไม่เกิดขึ้น.
|
|
26,0018,015,ดังนั้น <B>พระผู้มีพระภาคเจ้า</B>ครั้นตรัสวัฏกถา ( กถาว่าด้วยวัฏฏะ)
|
|
26,0018,016,ด้วยบท ๑๒ บท โดยอนุโลม ย้อมกลับบทนั้นแล้ว ตรัสวิวัฏกถา
|
|
26,0018,017,(นิพพาน) ด้วยบท ๑๒ บท ทรงยึดยอดพระเทศนาด้วยอรหัต.
|
|
26,0018,018,ในเวลาจบเทศนา ภิกษุนักวิปัสสนาจำนวน ๕๐๐ รูปเหล่านั้นเป็น
|
|
26,0018,019,บุคคลชั้นอุคฆติตัญญู แทงตลอดสัจจะ ดำรงอยู่ในพระอรหัตผล เหมือน
|
|
26,0018,020,ดอกปทุมที่ถึงความแก่กล้าพอต้องแสงอาทิตย์ก็บานแล้วฉะนั้น.
|
|
26,0018,021,บทว่า <B>อิทมโว จ ภควา</B> ได้แก่<B>พระผู้มีพระภาคเจ้า</B>ได้ตรัสคำ
|
|
26,0018,022,นี้ คือพระสูตรทั้งสิ้น คือวัฏกถาและวิวัฏกถา. บทว่า <B>อตฺตมนา เต</B>
|
|
|