|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
26,0031,001,<B>สมฺผสฺสชาเวทนา ฯ ล ฯ มโนสมฺผสฺสชาเวทนา</B> นี้ เป็นชื่อของเวทนา
|
|
26,0031,002,ที่เป็นกุศล อกุศล และอัพยากตะ ที่เป็นไปในจักขุทวารเป็นต้น เพราะ
|
|
26,0031,003,มาในวิภังค์อย่างนี้ว่า จักขุสัมผัสสขาเวทนา เป็นกุศลก็มี เป็นอกุศล
|
|
26,0031,004,ก็มี เป็นอัพยากตะก็มี เป็นชื่อโดยวัตถุเสมือนมารดา เหมือนเป็นชื่อฝ่าย
|
|
26,0031,005,มารดา ที่มาในประโยคอย่างนี้ มีอาทิว่า บุตรของนางพราหมณี ชื่อว่า
|
|
26,0031,006,"สารี, บุตรของพราหมณี ชื่อว่า มันตานี. ก็ในที่นี้ มีอรรถแห่งคำดังต่อ"
|
|
26,0031,007,ไปนี้ เวทนาที่เกิดจากเหตุคือจักขุสัมผัส ชื่อว่าจักขุสัมผัสสชาเวทนา. ในบท
|
|
26,0031,008,ทั้งปวงก็นัยนี้เหมือนกัน ในข้อนี้มีกถารวบรวมเวทนาทั้งปวง เป็นอันดับ
|
|
26,0031,009,แรก แต่ว่าด้วยอำนาจวิบาก พึงทราบเวทนาด้วยอำนาจสัมปยุตกับจิต
|
|
26,0031,010,เหล่านี้คือ ในจักขุทวาร จักขุวิญญาณ ๒ มโนธาตุ ๒ มโนวิญญาณ-
|
|
26,0031,011,ธาตุ ๓. ในโสตทวารเป็นต้นก็นัยนี้. และในมโนทวารประกอบกันมโน-
|
|
26,0031,012,วิญญาณธาตุ.
|
|
26,0031,013,ใน<H1>ผัสสนิเทศ</H1> มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
|
|
26,0031,014,บทว่า <B>จกฺขุสมฺผสฺโส</B> ได้แก่สัมผัสในจักษุ. ในบททั้งปวงก็นัยนี้.
|
|
26,0031,015,ก็ด้วยอันดับคำเพียงเท่านี้ว่า <B>จกฺขุสมฺผสฺโส ฯ ล ฯ กายสมฺผสฺโส</B> เป็น
|
|
26,0031,016,อันท่านกล่าวผัสสะ ๑๐ ซึ่งมีวัตถุ ๕ เป็นกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก.
|
|
26,0031,017,ด้วยบทว่า <B>นโนสนฺผสฺโส</B> นี้ ท่านกล่าวผัสสะที่สัมปยุตด้วยวิบากจิตที่
|
|
26,0031,018,เป็นโลกิยะ ๒๒ ที่เหลือ.
|
|
26,0031,019,ใน<H1>สฬายตนนิเทศ</H1> มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
|
|
26,0031,020,ในบทว่า <B>จกฺขฺวายตนํ</B> เป็นต้น คำที่จำต้องกล่าว ท่านกล่าวไว้
|
|
26,0031,021,แล้วในขันธนิเทศ และอายตนนิเทศ ในวิสุทธิมรรคนั่นแล.
|
|
26,0031,022,ใน<B>นามรูปนิเทศ</B> มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
|
|
|