tripitaka-mbu / 26 /260041.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
26,0041,001,<H1>อรรถกถาวิปัสสีสูตรที่ ๔</H1>
26,0041,002,ใน<B>วิปัสสีสูตรที่ ๔</B> มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
26,0041,003,บทว่า <B>วิปสฺสิสฺส</B> ความว่า ได้ยินว่า ดวงตาทั้งหลายของโลกิย-
26,0041,004,มนุษย์ผู้มองดูอะไร ๆ ย่อมกลอกไปมา เพราะประสาทตาอันเกิดแต่กรรม
26,0041,005,ที่บังเกิดแต่กรรมเล็กน้อย มีกำลังอ่อนเช่นใด แต่ดวงตาของพระโพธิสัตว์
26,0041,006,นั้น หากลอกเช่นนั้นไม่ เพราะประสาทตาอันเกิดแต่กรรม บังเกิดแต่กรรม
26,0041,007,มีกำลังมีกำลังมากพระองค์จึงมองดูด้วยดวงตาที่ไม่กลอกไม่ก็พริบนั่นแล
26,0041,008,เหมือนเทวดาในดาวดึงส์ฉะนั้น เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า พระกุมาร
26,0041,009,เพ่งดูโดยไม่กะพริบ เพราะฉะนั้น พระวิปัสสีกุมารนั้นจึงเกิดสมัญญาว่า
26,0041,010,<B>วิปัสสี วิปัสสี</B> นั่นแล. จริงอยู่ ในข้อนี้ มีอธิบายดังนี้ ชื่อว่า <B>วิปัสสี</B>
26,0041,011,เพราะเห็นความบริสุทธิ์ อีกอย่างหนึ่งชื่อว่า <B>วิปัสสี</B> เพราะเห็นด้วยทั้ง
26,0041,012,ดวงตาที่เบิก. ก็ในที่นี้ดวงตาของพระโพธิสัตว์ทั้งหมด ผู้เกิดใน
26,0041,013,ภพสุดท้ายย่อมไม่กลอก เพราะประสาทที่เกิดแต่กรรมอันมีกำลัง มีกำลัง
26,0041,014,แรง. ก็พระโพธิสัตว์นั้น ย่อมได้ชื่อด้วยเหตุนั้นนั่นเอง. อีกอย่างหนึ่ง
26,0041,015,ชื่อว่า วิปัสสี เพราะพิจารณาเห็น อธิบายว่า เพราะเลือกเฟ้นจึงเห็น.
26,0041,016,ได้ยินว่า วันหนึ่ง อำมาตย์ทั้งหลายนำพระมหาบุรุษผู้ประดับตกแต่ง
26,0041,017,พระวรกายแล้วมาวางไว้บนพระเพลาของพระราชาผู้ประทับนั่งพิจารณา
26,0041,018,คดีอยู่ในศาล เมื่อพระราชาทรงพอพระทัยที่ได้มหาบุรุษนั้นอยู่บนพระ
26,0041,019,เพลา อำมาตย์ทั้งหลายได้กระทำเจ้าของทรัพย์ไม่ให้เป็นเจ้าของทรัพย์.
26,0041,020,พระโพธิสัตว์ทรงเปล่งเสียงแสดงความไม่พอพระทัย. พระราชาตรัสว่า
26,0041,021,พวกท่านพิจารณาทบทวนดูที่หรือว่าเรื่องนั้นเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็น
26,0041,022,เป็นอย่างไร. พวกอำมาตย์เมื่อพิจารณาทบทวน ก็ไม่เห็นกรณีเป็นอย่าง