|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
27,0010,001,บทว่า <B>กหญฺหิ โน สิยา</B> ความว่า เพราะเหตุไรท่านจักไม่ได้ปัญญา
|
|
27,0010,002,นั้นเล่า อธิบายว่า ได้แล้วทีเดียว. ด้วยบทนี้ ท่านแสดงอะไรแสดงว่าเป็น
|
|
27,0010,003,ผู้คุ้นเคยกับพระศาสดา.
|
|
27,0010,004,ได้ยินว่า คฤหบดีนี้จำเดิมแต่ได้เห็นพระศาสดา ก็ได้ความรัก
|
|
27,0010,005,ดุจว่าตนเป็นบิดา ฝ่ายอุบาสิกาของท่านก็ได้ความรักดุจตนเป็นมารดา.
|
|
27,0010,006,ท่านทั้งสองเรียกพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ศาสดาว่า บุตรของเรา. จริงอยู่
|
|
27,0010,007,ความรักของท่านทั้งสองนั้นมีมาแล้วในภพอื่นๆ. ได้ยินว่าอุบาสิกานั้น
|
|
27,0010,008,ได้เป็นมารดา ส่วนคฤหบดีนั้นได้เป็นบิดาของพระตถาคต ๕๐๐ ชาติ.
|
|
27,0010,009,อุบาสิกาเป็นยายและเป็นป้า-น้า อุบาสกเป็นปู่ และเป็นอา ตลอด
|
|
27,0010,010,๕๐๐ ชาติอีก. รวมความว่า พระศาสดาทรงเจริญเติบโตในมือของ
|
|
27,0010,011,"ท่านทั้งสองนั้นเองสิ้น ๑,๕๐๐ อัตภาพ. ด้วยเหตุนั้นนั่นแล ท่านทั้งสองนั้น"
|
|
27,0010,012,จึงนั่งพูดในสำนักของพระศาสดาใช้คำที่ใคร ๆ ไม่สามารถจะพูดใน
|
|
27,0010,013,ที่ไกล้บุตรและธิดาได้. ก็ด้วยเหตุนี้นี่แล พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรง
|
|
27,0010,014,ตั้งท่านทั้งสองนั้นไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้วยพระดำรัสว่า <B>ภิกษุ
|
|
27,0010,015,ทั้งหลาย บรรดาอุบาสกสาวกที่สนิทสนมของเรา นกุลปิตา คฤหบดี
|
|
27,0010,016,จัดเป็นเลิศ บรรดาอุบาสิกา สาวิกา ที่สนิมสนมของเรา นกุลมาตา
|
|
27,0010,017,คหปตานี เป็นเลิศ</B> ดังนั้นพระองค์เมื่อจะทรงประกาศความเป็นผู้สนิทสนมนี้
|
|
27,0010,018,จึงตรัสคำมีอาทิว่า <B>กหญฺหิ โน สิยา</B> ดังนี้.
|
|
27,0010,019,บทว่า <B>อมเตน อภิสิตฺโต</B> ความว่า ฌานก็ดี วิปัสสนาก็ดี มรรคก็ดี
|
|
27,0010,020,ผลก็ดี อะไรอื่นในที่นี้ไม่พึงเห็นว่า อมตาภิเสก (คือการโสรจสรงด้วย
|
|
27,0010,021,น้ำอมฤต) แต่พระธรรมเทศนาที่ไพเราะเท่านั้น พึงทราบว่า <B>อมตาภิเสก.</B>
|
|
27,0010,022,บทว่า <B>ทูรโตปิ</B> ได้แก่ จากภายนอกแว่นแคว้นบ้าง ภายนอกชนบทบ้าง.
|
|
|