tripitaka-mbu / 32 /320034.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
32,0034,001,ใช้ในอรรถว่าสรีระ ในประโยคนี้ว่า อากาศที่ล้อมรอบตัวก็เรียกว่า
32,0034,002,สรีรรูปเหมือนกัน. ใช้ในอรรถว่าวรรณะ ในประโยคนี้ว่า อาศัยจักษุ
32,0034,003,และวรรณรูปเกิดจักขุวิญญาณ. ใช้ในอรรถว่า<B>สัญฐาน</B> ในประโยคนี้ว่า
32,0034,004,ผู้ถ่อประมาณในรูปสัญฐาน เลื่อมใสในรูปสัณฐาน. พึงสงเคราะห์รูป มีอาทิ
32,0034,005,ว่า <B>ปิยรูปํ สาตรูปํ อรสรูโป</B> (รูปน่ารัก รูปน่าชื่นใจ ผู้มีรูปไม่น่ายินดี)
32,0034,006,ด้วย <B>อาทิ</B> ศัพท์. แต่ในที่นี้ รูปศัพท์นั้น ใช้ในอรรถว่า วรรณะ กล่าวคือ
32,0034,007,รูปายตนะ อันมีสมุฏฐาน ๔ ของหญิง. อีกอย่างหนึ่ง วรรณะ (สี)
32,0034,008,อย่างใดอย่างหนึ่งที่เนื่องด้วยกายของหญิง ไม่ว่าผ้าที่นุ่ง เครื่องประดับ
32,0034,009,กลิ่นหอม และผิวพรรณเป็นต้น หรือเครื่องประดับและระเบียบดอกไม้
32,0034,010,ย่อมสำเร็จเป็นอารมณ์แห่งจักขุวิญญาณของชาย. ทั้งหมดนั้น พึง
32,0034,011,ทราบว่า เป็นรูปแห่งหญิง เหมือนกัน.
32,0034,012,บทว่า <B>อิตฺถีรูปํ ภิกฺขเว ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺ€ติ</B> นี้
32,0034,013,ตรัสไว้ เพื่อทำคำที่ตรัสมาก่อนนั่นแลให้หนักแน่น. หรือคำก่อนตรัสไว้
32,0034,014,ด้วยอำหาอุปมาอย่างนี้ว่า <B>ยถยิทํ ภิกฺขเว อิตฺถีรูปํ</B> (เหมือนรูปหญิง
32,0034,015,นี้นะ ภิกษุทั้งหลาย). แต่คำนี้ตรัสด้วยอำนาจการชี้ภาวะแห่งการยึดถือ.
32,0034,016,ในการที่รูปหญิงครอบงำนั้นมีเรื่องสาธกดังต่อไปนี้ :-
32,0034,017,ได้ยินว่า พระราชาทรงพระนามว่า <B>มหาทาฐิกนาค</B> ให้สร้าง
32,0034,018,พระสถูปใหญ่ ที่ถ้ำ อัมพัฏฐะ ใกล้เจติยคิรีวิหาร กระทำคิริภัณฑ-
32,0034,019,วาหนบูชา (บูชาด้วยนำของที่เกิด ณ ภูเขามา) มีหมู่นางสนมแวดล้อม
32,0034,020,เสด็จไปยังเจติยคิรีวิหาร ถวายมหาทาน แก่ภิกษุสงฆ์ ตามกาลอัน
32,0034,021,สมควร. ธรรมดาว่า สถานที่ชนเป็นอันมากประชุมกัน ชนทั้งหมด
32,0034,022,ไม่มีสติที่จะตั้งมั่นอยู่ได้. พระอัครมเหสีของพระราชา ทรงพระนามว่า