|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
50,0014,001,คาถา (เหมือนกัน). คาถา ชื่อว่า อัตถูปนายิกา เพราะอรรถว่า น้อมเข้าไป
|
|
50,0014,002,ซึ่งประโยชน์ทั้งหลาย มีประโยชน์ตนเป็นต้น หรือเพราะน้อมตนเข้าไปใน
|
|
50,0014,003,ประโยชน์เหล่านั้น.
|
|
50,0014,004,อีกอย่างหนึ่ง บทว่า <B>ภาวิตตฺตานํ </B> แปลว่า มีอัตภาพอันเจริญแล้ว.
|
|
50,0014,005,"อธิบายว่า อัตภาพท่านเรียกว่า อัตตา เพราะเป็นที่ตั้งแห่งมานะว่าเป็น "" เรา """
|
|
50,0014,006,ก็และอัตตานั้น อันอัตภาพเหล่านั้น อบรมแล้ว ด้วยอัปปมาทภาวนา (และ)
|
|
50,0014,007,อนวัชชภาวนา คือให้ถือเอากลิ่น แห่งคุณธรรมได้โดยชอบทีเดียว. พระ-
|
|
50,0014,008,อานนทเถระเจ้า แสดงความบริบูรณ์แห่งภาวนา แม้ทั้ง ๔ คือ กายภาวนา
|
|
50,0014,009,ศีลภาวนา จิตภาวนา ปัญญาภาวนา เหล่านั้น ไว้ด้วยบทว่า <B>ภาวิตตฺตานํ</B>
|
|
50,0014,010,นั้น และทางดำเนินไปสู่พระสัมโพธิญาณ ในที่นี้ท่านประสงค์เอาว่าภาวนา
|
|
50,0014,011,ก็การตรัสรู้ สัจจะนี้มี ๒ อย่าง คือ โดยการตรัสรู้ ๑ และโดยอรรถแห่งสัจจะ
|
|
50,0014,012,นั้น ๑. ส่วนสัมโพธินั้น มี ๓ อย่าง คือ สัมมาสัมโพธิญาณ ๑ ปัจเจกสัม-
|
|
50,0014,013,โพธิญาณ ๑ สาวกสัมโพธิญาณ ๑.
|
|
50,0014,014,ในบรรดาสัมโพธิ ๓ อย่างนั้น ชื่อว่า สัมมาสัมโพธิ เพราะรู้ คือ
|
|
50,0014,015,ตรัสรู้ธรรมทั้งปวง โดยชอบด้วยพระองค์เอง. มรรคญาณที่เป็นปทัฏฐาน
|
|
50,0014,016,ของสัพพัญญุตญาณ และสัพพัญญุตญาณที่เป็นปทัฏฐานของมรรคญาณ ท่าน
|
|
50,0014,017,เรียกว่า สัมมาสัมโพธิญาณ ด้วยเหตุนั้น ท่านพระอานนทเถระจึงกล่าวว่า
|
|
50,0014,018,พระนามว่า พุทฺโธ แก่ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระสัพพัญญู ไม่มี
|
|
50,0014,019,อาจารย์ ตรัสรู้พร้อมเฉพาะซึ่งสัจจะทั้งหลายเอง ในธรรมทั้งหลายที่พระองค์
|
|
50,0014,020,ไม่เคยได้ยินมาในกาลก่อน เป็นผู้ถึงแล้วซึ่งความเป็นพระสัพพัญญู ในธรรม
|
|
50,0014,021,เหล่านั้น และถึงแล้ว ซึ่งความเป็นผู้ชำนาญในพลธรรมทั้งหลาย ดังนี้.
|
|
50,0014,022,แท้จริง ความเป็นผู้ชำนาญในพลธรรมทั้งหลาย มีการตรัสรู้ธรรม
|
|
50,0014,023,ที่ควรตรัสรู้เป็นอรรถ. ชื่อว่า ปัจเจกสัมโพธิ เพราะตรัสรู้ด้วยตนเองทีเดียว
|
|
|