tripitaka-mbu / 50 /500016.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
50,0016,001,ทรงบรรลุ จตูปปาตญาณและอนาคตังสญาณด้วยการชำระทิพยจักษุให้บริสุทธิ์
50,0016,002,ในมัชฌิมยาม (ยามกลาง) ทรงตั้งมั่นซึ่งวิปัสสนา โดยมุขคือปฏิจจสมุปบาท
50,0016,003,จำเดิมแต่ชราและมรณะ โดยนัยมีอาทิว่า สัตวโลกนี้ ถึงความลำบากหนอ
50,0016,004,ย่อมเกิด แก่ ตาย จุติ และอุปบัติ ก็และถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่รู้จัก (พระนิพพาน)
50,0016,005,อันเป็นเครื่องสลัดทุกข์นี้ คือ ชราและมรณะ เป็นพระโลกนาถลับขวาน คือ
50,0016,006,พระญาณ เพื่อจะตัดเสียซึ่งชัฎคือกิเลส ดุจลับขวานที่หินสำหรับลับ เพื่อจะ
50,0016,007,ตัดชัฏใหญ่ (ถางป่าใหญ่) ฉะนั้น ทรงยังวิปัสสนาให้ตั้งท้อง โดยการบรรลุ
50,0016,008,พระสัพพัญญุตญาณ เพราะเหตุสมบัติ คือ ความเป็นพระพุทธเจ้า ถึงความ
50,0016,009,แก่กล้า ทรงเข้าสมาบัติต่าง ๆ ในระหว่าง ๆ ทรงยกนามรูปตามที่ทรงกำหนด
50,0016,010,แล้วขึ้นสู่ไตรลักษณ์ พิจารณาสังขารในโวการภพมีอาการมิใช่น้อยด้วยสามารถ
50,0016,011,แห่งการพิจารณาธรรมตามลำดับบท ยังสัมมสนวารให้พิสดารแล้ว โดยมุข
50,0016,012,แห่งธรรม ๓๖ แสนโกฏิ. เมื่อวิปัสสนาญาณกล่าวคือมหาวชิรญาณ ในสัมม-
50,0016,013,สนญาณนั้นแก่กล้า ผ่องใส เป็นไปโดยความเป็นวุฏฐานคามินี ทรงสืบต่อ
50,0016,014,"สัมมสนญาณนั้นด้วยมรรคได้ ในเวลาใด ในเวลานั้น ทรงยังกิเลส ๑,๕๐๐"
50,0016,015,ให้สิ้นไป โดยลำดับแห่งมรรค ชื่อว่า ย่อมตรัสรู้ พระสัมมาสัมโพธิญาณ
50,0016,016,ในขณะแห่งมรรคอันเลิศ (อรหัตมรรค) จำเดิมแต่ขณะแห่งผลอันเลิศ
50,0016,017,(อรหัตผล) ชื่อว่า ทรงบรรลุแล้วในปัจฉิมยาม (ยามสุดท้าย).
50,0016,018,ก็แม้ทศพลญาณ และเวสารัชชญาณเป็นต้น ชื่อว่า ย่อมอยู่ในเงื้อม
50,0016,019,พระหัตถ์ของพระองค์ในเวลานั้น เพราะความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น
50,0016,020,ข้อนี้ จึงจัดเป็นปฏิปทาแห่งพระสัมมาสัมโพธิญาณ โดยการตรัสรู้ก่อน
50,0016,021,ส่วนโดยใจความแห่งสัมมาสัมโพธิปฏิปทานั้น ได้แก่ การเพิ่มพูนโพธิสมภาร
50,0016,022,อันเป็นแล้วในระหว่างที่ทรงบังเกิดในดุสิตพิภพ จนถึงแสดงมหาภินิหาร. คำที่
50,0016,023,ควรกล่าวถึงในการเพิ่มพูนพระโพธิสมภารนั้น ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้ว สมบูรณ์