|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
50,0047,001,"ท่านเรียกว่า "" กระท่อม"". สมจริงตามนั้น ท้องมารดาท่านเรียกว่า กระท่อม "
|
|
50,0047,002,ดังในประโยคมีอาทิว่า
|
|
50,0047,003,<B>ท่านกล่าวมารดา ว่าเป็นกระท่อม ท่านกล่าว
|
|
50,0047,004,ภรรยา ว่าเป็นรัง ท่านกล่าวบุตร ว่าเป็นเครื่องสืบ
|
|
50,0047,005,ต่อไป ท่านกล่าวตัณหาว่าเป็นเครื่องผูกแก่เรา ดังนี้.</B>
|
|
50,0047,006,กรชกายอันเป็นที่ประชุมแห่งอาการ ๓๒ มีผมเป็นต้น ท่านเรียกว่า
|
|
50,0047,007,กระท่อม ดังในประโยคมีอาทิว่า
|
|
50,0047,008,<B>เราติเตียนกระท่อม คือสรีระร่าง อันสำเร็จด้วย
|
|
50,0047,009,โครงกระดูก อันฉาบทาด้วยเนื้อ ร้อยรัดด้วยเส้นเอ็น
|
|
50,0047,010,เต็มไปด้วยของไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น น่าเกลียด
|
|
50,0047,011,ที่คนทั่ว ๆ ไปเข้าใจว่าเป็นของผู้อื่น และเป็นของตน</B>
|
|
50,0047,012,ดังนี้.
|
|
50,0047,013,ที่อาศัยที่มุงบังด้วยหญ้า ท่านเรียกว่า กระท่อม ดังในประโยคมีอาทิว่า
|
|
50,0047,014,ดูก่อนน้องหญิง กระท่อมของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ ฝน
|
|
50,0047,015,รั่วรดได้ ดังนี้ และดังในประโยคมีอาทิว่า ขึ้นชื่อว่า กระท่อม ฉาบแล้วก็มี
|
|
50,0047,016,ยังไม่ได้ฉาบก็มี ดังนี้. แม้ในคาถานี้พึงทราบว่าได้แก่ ที่อาศัยอันมุงด้วยหญ้า
|
|
50,0047,017,นั่นแหละ เพราะหมายถึงบรรณศาลา. เพราะว่า กระท่อม ก็คือกุฎีนั่นเอง.
|
|
50,0047,018,อธิบายว่า กุฎี ที่ไม่ปรากฏ ท่านเรียกว่า กระท่อม.
|
|
50,0047,019,ส่วนสุขศัพท์ มาในสุขเวทนา ดังในประโยคมีอาทิว่า บุคคลละสุข
|
|
50,0047,020,และทุกข์ โสมนัสและโทมนัสในกาลก่อนได้ ดังนี้. มาในความว่าเป็นมูลของ
|
|
50,0047,021,ความสุข ดังในประโยคมีอาทิว่า การบังเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
|
|
50,0047,022,นำมาซึ่งความสุข การฟังพระธรรมเทศนานำมาซึ่งความสุข ดังนี้. มาใน
|
|
|