Book,Page,LineNumber,Text
31,0020,001,
อรรถกถาทุติยสังขิตตสูตร
31,0020,002,สูตรที่ ๓. คำว่า ตโต คือ พึงทราบความคละปนกันด้วยอำนาจ
31,0020,003,ผล. จริงอยู่ อินทรีย์ทั้งห้าที่สมบูรณ์เต็มที่แล้ว ก็ย่อมชื่อว่าเป็นอินทรีย์ของ
31,0020,004,อรหัตผล. บุคคลที่ประกอบด้วยอรหัตผล ก็เป็นพระอรหันต์ ที่อ่อนกว่านั้น
31,0020,005,ก็ย่อมชื่อว่าเป็นอินทรีย์ของอนาคามิผล ฯลฯ ที่อ่อนกว่านั้น ก็เป็นอินทรีย์
31,0020,006,ของโสดาปัตติผล. บุคคลที่ประกอบด้วยโสดาปัตติผล ก็เป็นพระโสดาบัน
31,0020,007,ความเป็นต่าง ๆ ของผล ย่อมมีเพราะความเป็นต่าง ๆ ของอินทรีย์. ความ
31,0020,008,แตกต่างของบุคคล ย่อมมีเพราะความแตกต่างของอินทรีย์ เพราะความ
31,0020,009,แตกต่างกันของผล.
31,0020,010,จบอรรถกถาทุติยสังขิตตสูตรที่ ๓
31,0020,011,๔. ตติยสังขิตตสูตร
31,0020,012,อินทรีย์ ๕ ไม่เป็นหมัน
31,0020,013,[๘๘๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ ๕ ประการนี้ ๕ ประการ
31,0020,014,เป็นไฉน คือ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ๑ อินทรีย์ ๕ ประการนี้แล.
31,0020,015,[๘๘๑ ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เป็นพระอรหันต์ เพราะ
31,0020,016,อินทรีย์ ๕ ประการนี้เต็มบริบูรณ์ เป็นพระอนาคามี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อน
31,0020,017,กว่าอินทรีย์ของพระอรหันต์....เห็นพระโสดาบันผู้สัทธานุสารี เพราะอินทรีย์ ๕
31,0020,018,ยังอ่อนกว่าอินทรีย์ของพระโสดาบันผู้ธัมมานุสารี ดังพรรณนามาฉะนี้แล
31,0020,019,บุคคลผู้บำเพ็ญอรหัตมรรคให้บริบูรณ์ ย่อมได้ชมอรหัตผล บุคคลผู้บำเพ็ญ