Book,Page,LineNumber,Text 06,0027,001,ตอบว่า ในมัชฌิมประเทศ. เพราะฉะนั้น ในคำนี้จึงมีเนื้อความดังนี้ 06,0027,002,สองพานิชนั้น เป็นผู้เดินทางไกล เพื่อไปยังมัชฌิมประเทศ. 06,0027,003,สองบทว่า าติสาโลหิตา เทวตา ได้แก่ เทวดาผู้เคยเป็นญาติ 06,0027,004,ของสองพานิชนั้น. 06,0027,005,สองบทว่า เอตทโวจ มีความว่า ได้ยินว่า เทวดานั้น ได้บันดาล 06,0027,006,ให้เกวียนทั้งหมดของพานิชนั้นหยุด. ลำดับนั้น เขาทั้งสองมาใคร่ครวญดูว่า 06,0027,007,นี่เป็นเหตุอะไรกัน ? จึงได้ทำพลีกรรมแก่เทวดาผู้เป็นเจ้าทางทั้งหลาย. ในเวลา 06,0027,008,ทำพลีกรรมของเขา เทวดานั้นสำแดงกายให้เห็น ได้กล่าวคำนี้. 06,0027,009,สองบทว่า มนฺเถน จ มธุปิณฺฑิกาย จ ได้แก่ ข้าวสัตตุผง และ 06,0027,010,ข้าวสัตตุก้อน ปรุงด้วยเนยใสน้ำผึ้งและน้ำตาลเป็นต้น . 06,0027,011,บทว่า ปฏิมาเนถ ได้แก่ จงบำรุง. 06,0027,012,สองบทว่า ตํ โว มีความว่า ความบำรุงนั้น จักมีเพื่อประโยชน์เกื้อกูล 06,0027,013,เพื่อความสุขแก่ท่านทั้งหลายตลอดกาลนาน. 06,0027,014,สองบทว่า ยํ อมฺหากํ มีความว่า การรับอันใดจะพึงมีเพื่อประโยชน์ 06,0027,015,เกื้อกูลเพื่อความสุขแก่เหล่าข้าพระองค์ตลอดกาลนาน. 06,0027,016,สองบทว่า ภควโต เอตทโหสิ มีความว่า ได้ยินว่า บาตรใดของ 06,0027,017,พระองค์ได้มีในเวลาทรงประกอบความเพียร บาตรนั้นได้หายไปแต่เมื่อนาง 06,0027,018,สุชาดามาถวายข้าวปายาส. เพราะเหตุนั้น พระองค์จึงได้ทรงมีพระรำพึงนี้ 06,0027,019,ว่า บาตรของเราไม่มี ก็แลพระตถาคตทั้งหลายองค์ก่อน ๆ ไม่ทรงรับด้วย 06,0027,020,พระหัตถ์เลย. เราจะพึงรับข้าวสัตตุผงและข้าวสัตตุก้อนปรุงน้ำผึ้งด้วยอะไรเล่า 06,0027,021,หนอ ?