Book,Page,LineNumber,Text
15,0006,001,
กถาว่าด้วยเรื่องอเจลกโกรักขัตติยะ
15,0006,002,(๔) ดูก่อนภัตควะ สมัยหนึ่ง เราอยู่ที่นิคมแห่งชาวถูลู
15,0006,003,ชื่อว่า อุตตรกา ในถูลูชนบท. ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า เรานุ่งห่ม
15,0006,004,แล้ว ถือบาตรจีวร มีโอรสเจ้าลิจฉวีสุนักขัตตะ เป็นปัจฉาสมณะ
15,0006,005,เข้าไปบิณฑบาตที่อุตตรกานิคม. สมัยนั้น มีนักบวชเปลือยคนหนึ่ง
15,0006,006,ชื่อว่า โกรักขัตติยะ ประพฤติอย่างสุนัข เดินด้วยข้อศอกและเข่า
15,0006,007,กินอาหารที่กองบนพื้นด้วยปาก. ดูก่อนภัคควะ โอรสเจ้าลิจฉวี สุนัก
15,0006,008,ขัตตะ ได้เห็นเข้าจึงคิดว่า สมณะเดินด้วยข้อศอกและเข่ากินอาหาร
15,0006,009,ที่กองบนพื้นด้วยปาก เป็นพระอรหันต์ที่ดีหนอ.
15,0006,010,ครั้งนั้นเราได้ทราบความคิดในใจของโอรสเจ้าลิจฉวีชื่อสุนัก
15,0006,011,ขัตตะ ด้วยเจโตปริยญาณ จึงกล่าวกะเขาว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ แม้คน
15,0006,012,เช่นเธอ ก็ยังปฏิญาณตนว่าเป็นศากยบุตรอยู่หรือ.
15,0006,013,สุนักขัตตะ ได้ฑูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไฉนพระผู้มี
15,0006,014,พระภาคจึงตรัสกะข้าพระองค์อย่างนี้ว่า โมฆบุรุษ แม้คนเช่นเธอ ก็
15,0006,015,ยังปฏิญาณตนว่า เป็นศากยบุตรหรือ. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
15,0006,016,ดูก่อนสุนักขัตตะ เธอได้เห็นนักบวชเปลือยชื่อโกรักขัตติยะนี้ ซึ่ง
15,0006,017,ประพฤติอย่างสุนัข เดินด้วยข้อศอกและเข่า ใช้ปากกินอาหาร
15,0006,018,บนพื้นดิน แล้วเธอได้คิดต่อไปว่า สมณะเดินด้วยศอกและเข่า
15,0006,019,กินอาหารที่กองบนพื้นด้วยปาก เป็นพระอรหันต์ที่ดีหนอมิใช่หรือ.
15,0006,020,สุนักขัตตะ ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อเป็นเช่นนี้ พระผู้มี
15,0006,021,พระภาคยังหวงแหนความเป็นพระอรหันต์อยู่หรือ. เรากล่าวว่า ดู
15,0006,022,ก่อนโมฆบุรุษ เราไม่ได้หวงแหนความเป็นพระอรหันต์ แต่ว่าเธอได้
15,0006,023,เกิดทิฏฐิเลวทรามขึ้น เธอจงละมันเสีย ทิฏฐิ เลวทราม นั่น
15,0006,024,อย่าได้เกิดมีขึ้น เพื่อไม่เป็นประโยชน์และเป็นทุกข์แก่เธอ ชั่วกาล