Book,Page,LineNumber,Text
19,0016,001,หนึ่งหรือ ภิกษาทัพพีหนึ่งที่ควรถวาย เพราะฉะนั้น ก็ผู้ไม่ลำบากด้วย
19,0016,002,ปัจจัยสามารถบำเพ็ญสมณธรรมได้ หรือว่านี้เป็นวัตรของบรรพชิต
19,0016,003,เมื่อเป็นเช่นนั้น พระองค์ประทานคำตอบแล้ว เมื่อจะทรงถามถึงสามัคคีรส
19,0016,004,ว่า ดูก่อนอนุรุทธะ นันทิยะและกิมพิละ พวกเธอเป็นราชบรรพชิต มีบุญมาก
19,0016,005,พวกมนุษย์ไม่ถวายแก่พวกเธอผู้อยู่ในป่าแล้ว จักสำคัญสิ่งที่ควรให้แกใครอื่น
19,0016,006,เล่า ก็พวกเธอฉันของนี้แล้วอยู่ยัดเหยียดกันและกันเหมือนลูกเนื้อหรือ
19,0016,007,หรือว่า พวกเธอยังมีความพร้อมเพรียงกันอยู่ จึงตรัสคำเป็นต้นว่า กจฺจิ
19,0016,008,ปน โว อนุรุทฺธา สมคฺคา ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตาขีโรทกีภูตา
19,0016,009,ความว่า น้ำนมและน้ำผสมกันและกัน. ย่อมไม่แยกกัน เข้าถึงดุจเป็นอัน
19,0016,010,เดียวกัน ตรัสถามว่า พวกเธออยู่ด้วยความสามัคคีอย่างนี้. เหมือนจิตตุปบาท
19,0016,011,เข้าถึงความเป็นอันเดียวกันหรือ. บทว่า ปิยจกฺขูหิ ความว่า จักษุคือ
19,0016,012,การเข้าไปตั้งเมตตาจิตมองดู ชื่อว่าปิยจักษุ. ตรัสถามว่า พวกเธอแลดูกัน
19,0016,013,และกันด้วยจักษุเห็นปานั้นอยู่หรือ. บทว่า ตคฺฆ เป็นนิบาตลงในอรรถว่า
19,0016,014,ส่วนเดียว ดังท่านกล่าวว่า มยํ ภนฺเต โดยส่วนเดียว. บทว่า ยถา ในบทว่า
19,0016,015,ยถากถํ ปน นี้เป็นเพียงนิบาต. บทว่า กถํ แปลว่า ถามถึงเหตุ. มีอธิบายว่า
19,0016,016,พวกเธออยู่กันอย่างนี้ได้อย่างไร คืออยู่ด้วยเหตุไร พวกเธอจงบอกเหตุนั้นแก่
19,0016,017,เราเถิด. บทว่า เมตฺตํ กายกมฺมํ ได้แก่ กายกรรมที่เป็นไปด้วยอำนาจจิต
19,0016,018,เมตตา. บทว่า อาวิ เจว รโห จ ได้แก่ ต่อหน้า และลับหลัง. แม้ในบทนอกนี้ก็
19,0016,019,มีนัยนี้แหละ.
19,0016,020,ในบทนั้น กายกรรมและวจีกรรม ย่อมได้ในการอยู่ร่วมกันต่อหน้า
19,0016,021,นอกนี้ ย่อมได้ในการอยู่แยกกัน มโนกรรมได้ในที่ทั้งหมด จริงอยู่ เมื่ออยู่
19,0016,022,ร่วมกัน เตียงตั่งก็ดี ภัณฑะไม้ก็ดี ภัณฑะดินก็ดี อันใดที่คนหนึ่งเก็บไว้ไม่ดีใน
19,0016,023,ภายนอก เห็นสิ่งนั้น ไม่ทำความดูหมิ่นว่า สิ่งนี้ใครใช้แล้ว ถือเอามาเก็บ
19,0016,024,ไว้เหมือนที่ตนเก็บไว้ไม่ดี ก็หรือว่า ประคับประคองฐานที่ควรประดับประคอง